ทั้งนี้ ในเดือน มิ.ย.บริษัทจะรับมอบเรือใหม่ 1 ลำ และเรือมือสอง 1 ลำ ทำให้บริษัทจะมีกองเรือเพิ่มเป็น 18 ลำ นอกจากนี้ ตามแผนยังต้องซื้อเรือมือสองเพิ่มอีก 6-8 ลำ ซึ่งแล้วแต่การเจรจาราคากัน
ส่วนรายได้รวมปีนี้คาดว่าจะทรงตัวเมื่อเทียบกับปีก่อน เนื่องจากช่วงครึ่งปีแรกจำนวนเรือลดลงอยู่ที่ 16 ลำ จากปีก่อนที่มีกองเรือจำนวน 19-20 ลำ แต่ช่วงครึ่งปีหลังธุรกิจของบมจ.เมอร์เมด มาริไทม์ จะดีขึ้นจากการรับมอบเรือขุดเจาะเข้ามาเพิ่มอีก ทำให้รับงานได้มากขึ้น ประกอบกับราคาน้ำมันสูงขึ้นทำให้ความต้องการขุดเจาะปิโตรเลียมมากขึ้น ส่งผลดีต่อธุรกิจเมอร์เมด
ขณะที่ดัชนีค่าระวางเรือ(BDI)ในช่วงต้นปี 56 ลดลงมาที่ระดับ 800 -900 จุด เทียบปีก่อนเฉลี่ยที่ 1,100 จุด แต่คาดว่าในปี 57 BDI จะกลับมายืนเหนือ 1,000 จุดได้ เนื่องจากเริ่มมีการทำสัญญาขนส่งทางเรือมากขึ้น ได้แก่ ธุรกิจเหมือง เป็นต้น
ส่วน บมจ. ยูนิคไมนิ่ง เซอร์วิสเซส (UMS)บริษัทย่อยในปีนี้จะมีต้นทุนลดลงหลังจากเปิดโรงงานที่จ.สมุทรสาครได้แล้ว ทำให้บริษัทมีกำไรมากขึ้น
"ปี 56 พยายามทำให้ผลประกอบการ Breakevent หลังจากที่บริษัท เอเชีย ออฟชอร์ ดริลลิ่งค์ จำกัด (AOD)(ถือหุ้น 100%) เริ่มทำงานได้ และครึ่งปีหลังจะไม่ขาดทุนแล้ว จากครึ่งปีแรกที่ AOD บันทึกขาดทุนเพราะมีค่าใช้จ่ายเรือ 3 ลำ"นางฐิติมา กล่าว