ตลท.ให้"พีทีจี เอ็นเอนยี"เทรดวันแรก 30 พ.ค. ใช้ชื่อย่อ "PTG"

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday May 28, 2013 16:24 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายชนิตร ชาญชัยณรงค์ รองผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า บมจ. พีทีจี เอ็นเอนยี (PTG) จะเข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในกลุ่มทรัพยากร หมวดพลังงานและสาธารณูปโภค ในวันที่ 30 พฤษภาคม 2556 โดย PTG เป็นผู้ค้าปลีกและค้าส่งน้ำมันเชื้อเพลิง มีสถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิงซึ่งใช้เครื่องหมายการค้าว่า “PT" จำนวนรวมทั้งสิ้น 574 สถานีทั่วประเทศ

PTG และบริษัทย่อย ดำเนินธุรกิจค้าปลีกและค้าส่งน้ำมันเชื้อเพลิงผ่านสถานีบริการน้ำมัน “PT" โดยบริษัทเป็นเจ้าของ 397 สถานี และตัวแทนจำหน่ายน้ำมันของบริษัทเป็นเจ้าของ 177 สถานี นอกจากนี้ บริษัทยังให้บริการธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับกลุ่มลูกค้า อันได้แก่ ธุรกิจค้าส่งน้ำมันเชื้อเพลิงให้กับผู้ค้าน้ำมันรายอื่นและผู้ประกอบการอุตสาหกรรม ธุรกิจขนส่งและขนถ่ายน้ำมันเชื้อเพลิง และธุรกิจร้านสะดวกซื้อในสถานีบริการน้ำมัน PT

PTG มีทุนชำระแล้ว 1,670 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 1,250 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเพิ่มทุน 420 ล้านหุ้น โดยบริษัทแบ่งเสนอขายหุ้นต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) จำนวน 386.60 ล้านหุ้น และเสนอขายต่อกรรมการ ผู้บริหารและพนักงานจำนวน 33.40 ล้านหุ้น ราคาหุ้นละ 3.90 บาท มูลค่ารวมทั้งสิ้น 1,638 ล้านบาท เมื่อวันที่ 17 และ 20 - 22 พฤษภาคม 2556 โดยมีบริษัท เซจแคปปิตอล จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และ บล.โนมูระ พัฒนสิน เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย

นายพิทักษ์ รัชกิจประการ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ. พีทีจี เอ็นเนอยี เปิดเผยว่าบริษัทจะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปใช้ในการขยายสถานีบริการน้ำมันโดยเน้นสถานีบริการที่บริษัทบริหารเอง รวมทั้งการขยายสถานีบริการแบบครบวงจร ซึ่งประกอบด้วยร้านกาแฟสด “พันธุ์ไทย" และร้านสะดวกซื้อ “แมกซ์มาร์ท" นอกจากนี้ บริษัทจะลงทุนเพิ่มจำนวนรถบรรทุกน้ำมัน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและการบริหารต้นทุนค่าขนส่ง

PTG มีผู้ถือหุ้นใหญ่ 3 รายแรกหลัง IPO ได้แก่ กลุ่มครอบครัวรัชกิจประการ ถือหุ้น 32.85 % นายศักดิ์อนันต์ วิจิตรธนารักษ์ ถือหุ้น 20.07 % และกลุ่มครอบครัววชิรศักดิ์พานิช ถือหุ้น 9.34% ราคา IPO ของ PTG ในราคาหุ้นละ 3.90 บาท ต

ข้อมูลที่ระบุไว้ในหนังสือชี้ชวน มีอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E Ratio) 19.12 เท่า โดยคำนวณมาจากกำไรเบ็ดเสร็จส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่ย้อนหลัง 4 ไตรมาสที่ผ่านมา (ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. 2555 ถึง 31 มี.ค.2556) ซึ่งเท่ากับ 340.71 ล้านบาท และหารด้วยจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมดของบริษัทหลังจากการเสนอขายหุ้นในครั้งนี้ ซึ่งเท่ากับ 1,670 ล้านหุ้น (Fully Diluted) จะได้กำไรสุทธิ 0.20 บาทต่อหุ้น บริษัทมีนโยบายจ่ายเงินปันผลไม่ต่ำกว่า 30% ของกำไรสุทธิของงบการเงินเฉพาะบริษัทหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคล และสำรองตามกฎหมาย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ