สำหรับ พันธบัตรรัฐบาล รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุดในวันนี้คือ พันธบัตรรุ่น LB176A LB196A และ LB15DA (รุ่นอายุ 4.1 ปี 6.1 ปี และ 2.5 ปี ตามลำดับ) โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 18,499 ล้านบาท หรือคิดเป็น 57% ของมูลค่าการซื้อขายพันธบัตรรัฐบาลทั้งหมด ทางด้าน หุ้นกู้เอกชน รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรกในวันนี้ คือ หุ้นกู้ของ
1. ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) (BAY142B) มูลค่า 201 ล้านบาท
2. บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) (BGH205A) มูลค่า 142 ล้านบาท
3. บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) (CPF163A) มูลค่า 103 ล้านบาท
โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 446 ล้านบาท หรือคิดเป็น 41% ของมูลค่าการซื้อขายหุ้นกู้เอกชนทั้งหมดในวันนี้
ทางด้านประเภทของนักลงทุน ที่มียอดซื้อสุทธิ สูงที่สุดเป็น 2 อันดับแรกในวันนี้ คือ
1. กลุ่มบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ขายสุทธิ 1,164 ล้านบาท
2. กลุ่มบริษัทจดทะเบียนในประเทศ ซื้อสุทธิ 1,862 ล้านบาท
ในขณะที่นักลงทุนต่างชาติ มียอดขายสุทธิ มูลค่า 8,600 ล้านบาท
Yield Curve ปรับเพิ่มขึ้นในตราสารอายุ 3 ปีขึ้นไป ประมาณ 1-8 bps. ซึ่งวันนี้ กนง. ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% จาก 2.75% เหลือ 2.5% ต่อปี ตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ โดยให้เหตุผลว่า ตัวเลขการส่งออกของไทยและ GDP ไตรมาสแรกขยายตัวต่ำกว่าที่คาด และอาจกระทบต่อเศรษฐกิจไทยในไตรมาสถัดไปได้ สำหรับนักลงทุนต่างชาติมีแรงขายเกือบทุกช่วงอายุตราสาร ยอดขายสุทธิเท่ากับ 8,600 ล้านบาท