บล.เอเชีย พลัส ระบุในบทวิเคราะห์ฯแนะ"ซื้อ"หุ้น บมจ.พีทีจี เอ็นเนอยี(PTG)ภายใต้มูลค่าพื้นฐาน ณ สิ้นปี 2556 ด้วยวิธี DCF เท่ากับ 4.40 บาทต่อหุ้น ซึ่งคิดเป็น PE ที่ระดับ 11.53 เท่า จากศักยภาพการเติบโตต่อเนื่องในระยะยาว โดยให้ผลตอบแทนต่อผู้ถือหุ้น(ROE)เฉลี่ยอยู่ในระดับสูงกว่า 20% และคาดหวัง Dividend Yield เฉลี่ย 2.6% p.a.
PTG อยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อมสำหรับการขยายการลงทุนในธุรกิจจำหน่ายผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม และธุรกิจเกี่ยวเนื่อง โดยมุ่งเน้นที่จะเป็นผู้ให้บริการสถานีบริการน้ำมันที่ครอบคลุมพื้นที่ในแต่ละจังหวัดในประเทศไทยให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน จากแผนการลงทุนโดยอาศัยแหล่งเงินทุนจากการทำ IPO สำหรับการขยายจำนวนสถานีบริการน้ำมันภายใต้แบรนด์ PT รวมถึงการเพิ่มประสิทธิภาพของธุรกิจเกี่ยวเนื่อง เพื่อรองรับการเติบโตในระยะยาว
นอกจากนี้ คาดรายได้และกำไรสุทธิในช่วง 5 ปีข้างหน้า(2556-2560) จะเติบโตเฉลี่ย 13.7%p.a. และ 21.4%p.a. (CAGR) ตามลำดับ ตามแผนการขยายจำนวนสถานีบริการน้ำมัน PT ทั้งรูปแบบ COCO และ DODO ให้ครอบคลุมพื้นที่สำคัญๆทั่วประเทศมากขึ้น เพื่อก้าวไปสู่หนึ่งในผู้นำด้านสถานีบริการน้ำมันในประเทศ
นอกจากคาดการณ์ส่วนแบ่งการตลาดของธุรกิจน้ำมันของ PTG จะเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 7% ภายในระยะเวลา 5 ปีข้างหน้าตามปริมาณขายน้ำมันที่เพิ่มขึ้นจากการเพิ่มจำนวนสถานีบริการน้ำมันแล้ว คาดการเพิ่มจำนวนสถานีบริการรูปแบบ COCO ในสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นจะส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นเฉลี่ยมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องในช่วง 5 ปีข้างหน้าเช่นกัน เพราะสถานีบริการน้ำมันรูปแบบ COCO ถือเป็นช่องทางจำหน่ายที่บริษัทมีอัตรากำไรขั้นต้นสูงที่สุดในกลุ่มธุรกิจของ PTG