EGCO คาดกำไร Q2/56 ดีกว่า Q2/55 หลังรับรู้กำไรโครงการใหม่ต่อเนื่อง

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday May 30, 2013 16:25 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสหัส ประทักษ์นุกูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ผลิตไฟฟ้า (EGCO) คาดว่ากำไรในไตรมาส 2/56 ดีกว่าในไตรมาส 2/55 ที่มีกำไรสุทธิ 6.27 พันล้านบาท เนื่องจากรับรู้กำไรจากโครงการใหม่ที่เข้าสู่ระบบการผลิต ได้แก่ โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ จำนวน 2 โรง และ โรงไฟฟ้าเควซอน
"ไตรมาส 2 ปีนี้ กำไรดีกว่างวดเดียวกันของปีก่อน มาจากโครงการใหม่ ซึ่งมีผลในไตรมาส 1 ช่วยทำให้กำไรเพิ่มขึ้นมา 21%" นายสหัส กล่าว

ทั้งปี 56 คาดว่ากำไรสุทธิจะดีกว่าปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 1.09 หมื่นล้านบาท เพราะนอกจากจะมีโครงการใหม่เข้าระบบแล้ว ยังมีกิจการที่เข้าซื้อและสามารถรับรู้รายได้ภายในปีนี้

ส่วนการเข้าเจรจาซื้อกิจการใหม่บริษัทก็ยังดำเนินการต่อเนื่อง นายสหัส กล่าวว่า บริษัทอยู่ระหว่างเจรจาซื้อหุ้นในบริษัทที่ได้รับสัมปทานระบบจ่ายไฟ และโรงไฟฟ้าในมาเก๊าและฮ่องกง คาดว่าจะสรุปได้ในปลายไตรมาส 2/56 หรืออาจจะเป็นต้นไตรมาส 3/56 โดยอยู่ระหว่างเจรจาสัดส่วนการถือหุ้น แต่คงไม่ได้เข้าไปถือสัดส่วนมากนัก และหากตกลงได้บริษัทก็จะรับรู้รายได้เข้ามาทันที

ขณะที่การเจรจาเข้าซื้อกิจการโรงไฟฟ้าพลังงานลมในออสเตรเลีย สัดส่วน 100% ที่มีกำลังการผลิตกว่า 100 เมกะวัตต์ คาดว่าจะสรุปได้ในไตรมาส 3/56 และคาดว่าจะใช้เวลาก่อสร้างกว่า 1 ปี และเริ่มรับรู้รายได้ในปี 58 โดยโครงการดังกล่าวมีต้นทุนโครงการประมาณ 100 ล้านเหรียญสหรัฐ

ส่วนการเข้าประมูลโรงไฟฟ้าถ่านหินในอินโดนีเซีย ขนาด 1,800 เมกะวัตต์ นั้น นายสหัสคาดว่าจะเลื่อนสรุปผลประมูลมาเป็นไตรมาส 4/56 หรือปลายปี 56 จากเดิมคาดรู้ผลในไตรมาส 3/56 เนื่องจากทางการอินโดนีเซียยังเจรจาเรื่องคุณสมบัติผู้เข้าร่วมประมูล สเปกยังไม่ชัดเจน

สำหรับโครงการขยายโรงไฟฟ้าเควซอนในฟิลิปปินส์ กำลังผลิต 500 เมกะวัตต์นั้น นายสหัส กล่าวว่า มีแนวโน้มได้ดำเนินการส่วนต่อขยาย แต่เนื่องจากยังต้องผลการเจรจาค่าไฟเสียก่อน ซึ่งมีหลายกลุ่มที่เกี่ยวข้อง โดยต้องเจรจากับผู้ซื้อไฟฟ้าและ regulator คาดว่าจะสรุปและเซ็นสัญญาได้ในปี 57 หลังจากจึงจะก่อสร้าง และคาดว่าจะจ่ายไฟได้ในปี 61 ขณะที่คาดว่าเงินลงทุนโครงการนี้มีจำนวน 600 ล้านเหรียญ โดยจะใช้เงินกู้ 70% อีก 30% มาจากส่วนผู้ถือหุ้น ซึ่ง EGCO จะเข้าไปถือหุ้นสัดส่วน 50% ก็คาดว่าจะใช้เงินประมาณ 3 พันล้านบาท

ทั้งนี้ โครงการใหม่ที่เข้าเจรจาซื้อและร่วมทุนดังกล่าว บริษัทยังไม่ได้รวมในงบลงทุนปีนี้ที่กำหนดไว้ 1.6 หมื่นล้านบาท แต่บริษัทมีความสามารถกู้เงินเพิ่มได้อีก โดยปัจจุบันมีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนที่ระดับ 0.66 เท่า (สิ้นมี.ค.56)


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ