KAMART-W ปิดเทรดวันแรกที่ 6.95 บาท มูลค่าซื้อขาย 66.91 ล้านบาท โดยเปิดตลาดที่ 7 บาท ราคาขึ้นสูงสุด 7.35 บาท ราคาลงต่ำสุด 6.70 บาท
ขณะที่หุ้น KAMART ปิดที่ 9.45 บาท ลดลง 0.15 บาท(-1.56%)มูลค่าซื้อขาย 54.33 ล้านบาท โดยเปิดตลาดที่ 9.50 บาท ราคาขึ้นสูงสุด 9.60 บาท และราคาลงต่ำสุด 9.30 บาท
บล.ทิสโก้ ระบุในบทวิเคราะห์ฯประเมินมูลค่าเหมาะสมของ KAMART—W ณ ราคาหุ้นแม่ 9.6 บาท (29 พ.ค.)ประเมินมูลค่า KAMART-W ได้ที่ประมาณ 6.89 บาท/หน่วย คิดเป็น All-in Premium -7.35% พร้อมให้กรอบแกว่งของ KAMART-W ไว้ที่ 6.53-7.44 บาท เมื่อราคาหุ้น KAMART แกว่งอยู่ในกรอบ 9.20-10.20 บาท
โดยราคาหุ้น KAMART อยู่สูงกว่าราคาใช้สิทธิ KAMART-W มาก ซึ่งจะมีผลกระทบ Dilution Effect ส่งผลลบต่อการประเมินมูลค่า KAMART-W ที่เหมาะสม คาด All-in Premium จะเป็นลบเล็กน้อย เนื่องจากการจ่ายเงินปันผลของหุ้นแม่(มีสมมติฐานอัตราผลตอบแทนเงินปันผลราว 1.5%) และราคาใช้สิทธิที่ต่ำมากเพียง 2 บาท เทียบกับราคาหุ้นแม่ที่อยู่สูงกว่า 9 บาท ทำให้ KAMART-W มีสถานะเป็น Deep-In The Money
KAMART ประกาศผลประกอบการ 1Q56 ออกมาต่ำกว่าที่เราและตลาดคาดไว้ 32% และ 30.9% ตามลำดับ มาที่ 41 ล้านบาท โดยลดลง -39.5% QoQ และทรงตัว YoY แม้ว่ารายได้จากการขายจะขยายตัว 24.1% YoY และ 3.0% QoQ แต่อัตราส่วนค่าใช้จ่ายการขายและบริหารต่อยอดขายที่เพิ่มขึ้นอย่างมากจาก 21.07% ใน 1Q55 มาที่ 26.38% ใน 1Q56 จากกิจกรรมการตลาดและส่งเสริมการขายที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม ยังคงประมาณการผลประกอบการตามเดิม เนื่องจากคาดว่าผลประกอบการของบริษัทจะดีขึ้นในช่วงเวลาที่เหลือของปีนี้ จากการรับรู้รายได้เต็มที่จากแบรนด์ MISSHA
KAMART-W จำนวนที่ออก 59.99 ล้านหน่วย จัดสรรแก่ผู้ถือหุ้นเดิมในอัตราส่วน 10 : 1 ฟรี อัตราใช้สิทธิ 1 : 1 @ 2 บาท, อายุ 1 ปี ใช้สิทธิได้ทุกวันทำการสุดท้ายของเดือน ก.ค. 56, ต.ค. 56 และ ม.ค. 57 (ใช้สิทธิครั้งแรกวันที่ 31 ก.ค. 56 และใช้สิทธิครั้งสุดท้ายวันที่ 6 พ.ค. 57 ซึ่งเป็นวันหมดอายุ)