ดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 0.4% ปิดที่ 303.55 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 3996.31 บวก 22.19 จุด ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 8400.20 บวก 63.62 จุด ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนที่ 6656.99 บวก 29.82 จุด
ตลาดหุ้นยุโรปดีดตัวขึ้นเนื่องจากนักลงทุนคาดการณ์ว่าข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแออาจจะทำให้เฟดยังไม่ชะลอมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบ (QE) ในเร็วๆนี้ โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐได้ปรับลดตัวเลขจีดีพีที่แท้จริงประจำไตรมาส 1/2556 ลงเหลือ 2.4% จากที่ประมาณการไว้ครั้งแรกว่าขยายตัว 2.5%
ขณะที่กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 25 พ.ค. เพิ่มขึ้น 10,000 ราย สู่ระดับ 354,000 ราย ตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะทรงตัวอยู่ที่ระดับ 340,000 ราย
ด้านสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) ประจำเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 0.3% แตะที่ 106.0 ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะเพิ่มขึ้น 1.1%
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่นำโดยหุ้นริโอ ทินโต ผู้ประกอบการเหมืองแร่รายใหญ่อันดับสองของโลกและเกลนคอร์ เอ็กซ์สตราตาเพิ่มขึ้น 2.5% และ 1.7% ตามลำดับ
หุ้นธนาคารลอยด์ส ซึ่งเป็นผู้ปล่อยสินเชื่อจำนองรายใหญ่ที่สุดของอังกฤษเพิ่มขึ้น 1.9% ในขณะที่หุ้นธนาคารอาร์บีเอสเพิ่มขึ้น 1.7% และหุ้นเอชเอสบีซี โฮลดิ้งส์ ธนาคารรายใหญ่ที่สุดของยุโรปเพิ่มขึ้น 1.1%