นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยเช้าวันนี้ดัชนีน่าจะฟื้นตัวตามตลาดภูมิภาค หลังจากปรับตัวลดลงอย่างหนัก 2 วันติดต่อกัน เนื่องจากนักลงทุนเริ่มคลายความกังวล หลังข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐยังแสดงความอ่อนแอ
โดยเฉพาะตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ(จีดีพี)ขยายตัวในอัตราช้าลงมาอยู่ที่ 2.4% จากที่เคยคาดไว้ในระดับ 2.5% รวมถึงตัวเลขของผู้ขอรับสวัสดิการเพิ่มขึ้นอีก 1 หมื่นราย แสดงให้เห็นถึงสัญญาณเศรษฐกิจสหรัฐฯยังไม่กลับมาฟื้นตัวอย่างชัดเจน ทำให้นักลงทุนคาดหวังว่าเฟดจะยังคงเดินหน้ามาตรการ QE ต่อไป
ส่วนในประเทศยังไม่มีปัจจัยใหม่ที่เข้าสนับสนุนตลาดมากนัก อย่างไรก็ตาม บ่ายวันนี้ให้ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจที่ธปท.จะแถลงออกมา เพราะอาจมีประเด็นที่จะส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นไทยได้
พร้อมให้กรอบการเคลื่อนไหววันนี้ แนวต้าน 1,590-1,600 จุด แนวรับ 1,570-1,575 จุด
ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :
- ตลาดหุ้นนิวยอร์ควานนี้(30 พ.ค.)ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 15,324.53 จุด เพิ่มขึ้น 21.73 จุด(+0.14%) ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 1,654.41 จุด เพิ่มขึ้น 6.05 จุด(+0.37%) และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 3,491.30 จุด เพิ่มขึ้น 23.78 จุด(+0.69%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 215.20 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 2.99 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 98.24 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 75.48 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 9.15 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 6.50 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ ลดลง 9.11 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 1.78 จุด และดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลีย เพิ่มขึ้น 11.50 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดวานนี้(30 พ.ค.)ที่ 1,581.32 จุด ลดลง 20.29 จุด(-1.27%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 3,829.84 ล้านบาท เมื่อ 30 พ.ค.56
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการวานนี้(30 พ.ค.)ที่ 93.61 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.48 ดอลลาร์ฯ
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดวานนี้(30 พ.ค.)ที่ 8.2 เหรียญฯ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้ 30.11/13 แข็งค่าตามภูมิภาคหลังตัวเลขศก.สหรัฐยังแย่
- พาณิชย์เผยตัวเลขส่งออกเดือนเม.ย. ผิดพลาด เหตุกรมศุลฯรายงานส่งออกไปฮ่องกงเพิ่ม 176.6% ขณะตัวเลขจริงแค่ 12.6% ส่งผลมูลค่ารูปดอลลาร์เพิ่ม 2.89% จากเดิม 10.52% ด้านคลังเตรียมหั่นเป้าเศรษฐกิจ หลังแนวโน้มชะลอต่อเนื่องในไตรมาสสอง
- นายกฯ อินเดีย เยือนไทยหารือทวิภาคีปูทางขยายเข้า "เออีซี" ผนึก 3 ชาติ "ไทยพม่า-อินเดีย" สร้างถนนร่วม เชื่อมจากอินเดียเข้าทวายให้เสร็จภายในปี 2559 พร้อมลงนามแลกเปลี่ยนข้อมูลธุรกรรมทางการเงินเกี่ยวข้องกับการฟอกเงิน ระหว่าง ปปง.กับอินเดีย เผยการค้าไทย-อินเดีย 4 เดือน พุ่ง 13%
- สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กล่าวว่าหนี้ภาคครัวเรือนของไทยมีการขยายตัวเพิ่มขึ้น แต่เป็นการเพิ่มขึ้นในอัตราที่ชะลอตัวลดลง โดยสินเชื่อรวมของธนาคารพาณิชย์ในปี 2555 มีจำนวน 11.27 ล้านล้านบาท ขยายตัว 15.3%
- สหรัฐประกาศใช้มาตรการเก็บภาษีอากรตอบโต้การอุดหนุน(ซีวีดี) หรือเรียกเก็บภาษีนำเข้ากุ้งแช่แข็งจากไทย 2.09% ซึ่งเป็นการเรียกเก็บภาษีซีวีดีในอัตราเบื้องต้น เนื่องจากสหรัฐเห็นว่าไทยมีการอุดหนุนใน 3 ประเด็นใหญ่ คือ ผู้ส่งออกกุ้งไทยที่เสียภาษีส่งออกได้รับเงินคืนจากกรมสรรพากรในอัตรา 0.13% และการที่สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ส่งเสริมการลงทุนอุตสาหกรรมกุ้งไทย ทำให้ต้นทุนอุตสาหกรรมกุ้งลดลง 2% และการที่บีโอไอลดภาษีเครื่องจักรให้กับอุตสาหกรรมกุ้งไทยถือเป็นการอุดหนุน
- สมาคมบริษัทจดทะเบียนห่วงเงินทุนไหลออกเร็ว หลังเศรษฐกิจสหรัฐฟื้นตัว แถมเฟดส่งสัญญาณหยุดคิวอี3 กดดันค่าเงินอ่อน-ดอกเบี้ยขึ้น แนะบริษัทจดทะเบียนปรับโครงสร้างการเงินรับความผันผวน ทั้งยืดหนี้ให้ยาว-ปรับดอกเบี้ยจากลอยตัวเป็นคงที่ให้มากขึ้น
*หุ้นเด่นวันนี้
- บล.บัวหลวง ระบุ สหรัฐฯพิจารณาปรับขึ้นภาษีฯกุ้งแช่แข็ง อินเดีย จีน มาเลเซีย เวียดนาม และไทย เพิ่มอีก ก่อนพิจารณาอีกทีเดือน ก.ย.นี้ (คาดกระทบจำกัด ส่งออก US CFRESH 5% TUF 4% CPF (ไม่มี)
- HMPRO(บัวหลวง)กระแสข่าวลือถูกซื้อกิจการ คาดหากมีการซื้อขายจริง อิง PE ที่ MAKRO ซื้อขายที่ 40 เท่า คาดราคาขาย HMPRO เกิน 18 บ. เพราะยังไม่รวม Upside จากการขาย Property fund
- BEC(ฟินันเซีย ไซรัส)ราคาหุ้นปรับลงมาจนน่าสนใจมากขึ้นและมี upside จากราคาเป้าหมายที่ 69 บาท จึงปรับคำแนะนำขึ้นจาก"ขาย"เป็น"ซื้อเก็งกำไร"แนวโน้มกำไรใน 2Q13 จะดีขึ้นเพราะเป็น peak season ของธุรกิจโฆษณา ขณะเดียวกัน BEC ปรับขึ้นค่าโฆษณารายการช่วงบ่ายตั้งแต่กลางไตรมาส ส่วนการประมูลทีวีดิจิตอล 24 ช่องในช่วงต้น 4Q13 นั้น BEC มีแผนเข้าประมูลด้วย ซึ่งบริษัทมีจุดแข็งทั้งด้านเงินทุนและ content
- QH (เกียรตินาคิน)"ซื้อ"เป้า 5.75 บาท ยอดขายตั้งแต่ต้นปี 2556 ที่ 1.04 หมื่นล้านบาท หรือคิดเป็น 52% ของเป้าหมายที่วางไว้ที่ 2 หมื่นล้านบาท ยังมีโครงการรอการขายราว 4.5 หมื่นล้านบาท โดยมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่ช่วงครึ่งปีหลังอีก 7 โครงการรวมมูลค่า 3.8 พันล้านบาท ทั้งแบรนด์ GUSTO และ The Trust คาดไตรมาส 2 จะดีขึ้นทั้ง QoQ และ YoY จากรับรู้รายได้คอนโดมีเนียม 3 แห่ง คือ The Trust พระราม 3, Casa Condo อโศก-ดินแดง และ Casa Condo เชียงใหม่
- TTW(เกียรตินาคิน)"ซื้อเก็งกำไร"ปัจจัยหนุนราคาหุ้นในระยะต่อไปคือ แผนการขยายธุรกิจน้ำประปาไปยังพม่า, ลาว และเวียดนามในช่วง 5 ปีข้างหน้า โดยเฉพาะในพม่าบริษัทคาดว่าจะได้ข้อสรุปในไตรมาส 2 ขณะที่ธุรกิจในประเทศคาดว่าโครงการโซล่าร์ฟาร์ม และการนำขยะมาใช้เป็นเชื้อเพลิงจะได้ข้อสรุปกลางปีนี้ นอกจากนี้ยังคงมีโอกาสได้เห็นการจ่ายปันผลพิเศษในปี 2556 ด้วย หลังบันทึกกำไรจากการนำ CK Power เข้าตลาดในช่วงกลางปี 2556
- KBANK(โกลเบล็ก)"ซื้อ"เป้า 251 บาท มีความโดดเด่นในการมีสัดส่วนของสินเชื่อด้อยคุณภาพต่อสินเชื่อรวมต่ำที่สุดในกลุ่มแบงก์ขนาดใหญ่ คาดกำไรปี 56 จะเติบโตอีก 26%YoY เป็น 4.34 หมื่นล้านบาท กำไรสุทธิ 1Q56 ที่ 10,106 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 13%YoY คิดเป็น 23% ของประมาณการกำไรทั้งปี แนวโน้มสินเชื่อยังเติบโตต่อเนื่อง เดือนเม.ย.สินเชื่อเติบโต 0.1% จากปลายเดือนมี.ค. หรือ 2.2% จากปลายปี 55