สำหรับ พันธบัตรรัฐบาล รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุดในวันนี้คือ พันธบัตรรุ่น LB176A LB196A และ LB155A (รุ่นอายุ 4.0 ปี 6.0 ปี และ 2.0 ปี ตามลำดับ) โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 16,288 ล้านบาท หรือคิดเป็น 65% ของมูลค่าการซื้อขายพันธบัตรรัฐบาลทั้งหมด ทางด้าน หุ้นกู้เอกชน รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรกในวันนี้ คือ หุ้นกู้ของ
1. บริษัท น้ำตาลมิตรผล จำกัด (MPSC136A) มูลค่า 253 ล้านบาท
2. บริษัท โตโยต้า ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด (TLT14DA) มูลค่า 231 ล้านบาท
3. บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) (THAI165A) มูลค่า 177 ล้านบาท
โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 661 ล้านบาท หรือคิดเป็น 45% ของมูลค่าการซื้อขายหุ้นกู้เอกชนทั้งหมดในวันนี้
ทางด้านประเภทของนักลงทุน ที่มียอดซื้อสุทธิ สูงที่สุดเป็น 2 อันดับแรกในวันนี้ คือ
1. กลุ่มบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ซื้อสุทธิ 19,968 ล้านบาท
2. กลุ่มบริษัทจดทะเบียนในประเทศ ซื้อสุทธิ 5,626 ล้านบาท
ในขณะที่นักลงทุนต่างชาติ มียอดซื้อสุทธิ มูลค่า 11,895 ล้านบาท
Yield Curve ปรับเพิ่มขึ้นในตราสารอายุ 5 ปีขึ้นไป ประมาณ 2-7 bps. ในขณะที่พันธบัตร รุ่นอายุไม่เกิน 3 ปี ปรับลดลง ประมาณ 1-2 bps. โดยมูลค่าซื้อขายส่วนใหญ่กระจุกตัวอยู่ในพันธบัตร ธปท. ที่ประมูลวันนี้ นักลงทุนรอติดตามข่าว Moody’s ว่าจะประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือของไทยลงหรือไม่ รวมทั้งตัวเลขเศรษฐกิจต่างๆ ทั้งของสหรัฐฯ และจีน ที่ทยอยประกาศออกมา แสดงถึงเศรษฐกิจที่ชะลอตัว สำหรับนักลงทุนต่างชาติมีแรงซื้อในพันธบัตรระยะสั้น ยอดซื้อสุทธิเท่ากับ 11,895 ล้านบาท