(เพิ่มเติม) EUREKA เจรจาบิ๊กโปรเจ็คต์กับโตโยต้า,เสนอราคางานในลูกค้าอินเดีย-อินโดฯ

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday June 5, 2013 13:24 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายนรากร ราชพลสิทธิ กรรมการผู้จัดการ บมจ.ยูเรกา ดีไซน์(EUREKA)เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ระหว่างเจรจางานโปรเจ็คต์ขนาดใหญ่กับค่ายโตโยต้าคาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในปีนี้ พร้อมกันนั้นยังอยู่ระหว่างการเสนอราคางานให้กับลูกค้าในอินเดียและอินโดนีเซีย ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในปีนี้เช่นกัน

บริษัทยังมั่นใจว่ารายได้ในปีนี้จะสูงขึ้นแตะ 400 ล้านบาท จากปีก่อนที่มีรายได้ 306 ล้านบาท โดยในช่วงไตรมาส 2/56 รายได้จะเติบโตก้าวกระโดดจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 69 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้บริษัทมีมูลค่างานในมือ(backlog)ไว้แล้ว 200 ล้านบาทที่คาดว่าจะทยอยรับรู้รายได้ทั้งหมดในปีนี้ ส่วนในด้านเงินลงทุนตั้งงบ 3 ปี(ปี 56-58) ใช้เงินลงทุนราว 70-80 ล้านบาทเพื่อซื้อเครื่องจักรใหม่และปรับปรุงระบบไอที

"บริษัทอยู่ระหว่างการเจรจาโปรเจ็คใหญ่กับ บริษัท TOYOTA โดยเป็นการทำเครื่องจักรเพื่อส่งมอบนำไปผลิตรถรุ่นใหม่ประเภทรถกระบะ คาดว่าจะได้ข้อสรุปทั้งหมดในปีนี้ ขณะเดียวกันก็อยู่ระหว่างการเจรจาโปรเจ็คเสนอราคาเครื่องจักรกับบริษัท YAMAHA ที่ประเทศอินโดนีเซียและ MARUTE SUZUKI ที่ประเทศอินเดีย คาดว่าจะได้ข้อสรุปในปีนี้เช่นกันและจะสามารถส่งมอบได้ในปี 57"นายนรากร กล่าว

สำหรับไตรมาส 2/56 บริษัทคาดว่ารายได้และกำไรจะเติบโตใกล้เคียงกับไตรมาส 1/56 และรายได้จะเติบโตก้าวกระโดดเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 69 ล้านบาท เนื่องจากได้รับผลบวกจากอุตสาหกรรมยานยนต์ ทำให้บริษัทฯได้รับออเดอร์เพิ่มขึ้นจากผู้ประกอบการรถยนต์ เช่น HONDA TOYOTA MITSUBISHI ขณะที่ออเดอร์จากต่างประเทศทั้งเวียดนามและอินเดียก็มีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง

ในปีนี้บริษัทคาดว่ารายได้รวมจะเติบโตตามเป้าหมาย 400 ล้านบาท หรือ 30% จากปี 55 ที่ 306.30 ล้านบาท จากการที่บริษัทได้รับคำสั่งซื้อใหม่จากผู้ประกอบการยานยนต์ราว 100 ล้านบาท แบ่งเป็น MITSUBISHI มูลค่า 50 ล้านบาท AISIN มูลค่า 30 ล้านบาท และ HONDA Motorcycle มูลค่า 24 ล้านบาท ส่งผลให้งานในมือเพิ่มเป็น 200 ล้านบาท โดยคาดว่าจะสามารถรับรู้ได้ทั้งหมดภายในปีนี้

นายนรากร กล่าวว่า บริษัทฯตั้งงบลงทุน 3 ปี (56-58) 70-80% ในการลงทุนเครื่องจักรใหม่ โดยปีนี้จะใช้ลงทุนในระบบซอฟแวร์ จำนวน 30 ล้านบาท โดยมีเป้าหมายทางธุรกิจใน 3 ปีข้างหน้า หรือภายในปี 58 ที่จะมียอดขายติดอันดับ 1 ใน 10 ของอาเซียน จากปัจจุบันอยู่ 1 ใน 5 ของไทย และคาดว่าสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศจะเพิ่มเป็น 30% จากปัจจุบัน 10% ซึ่งบริษัทจะเปิดสาขาที่อินโดนีเซีย อินเดีย และเวียดนาม หลังจากในช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมาได้เปิดสาขาที่จังหวัดฉะเชิงเทรา เพื่อเตรียมความพร้อมและปูทางก่อนบุกต่างประเทศ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ