นายธนเดช รังษีธนานนท์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กรุงศรี กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้มีดัชนีมีโอกาสลุ้นรีบาวน์ หลังจากมูดี้ส์ออกมาประกาศว่ายังไม่มีการลดอันดับเครดิตประเทศ จากที่ก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวออกมาว่ามูดี้ส์จะลดอันดับเครดิตประเทศไทย เพราะนโยบายจำนำข้าว ทำให้คาดว่า sentiment โดยรวมน่าจะออกมาดีและนักลงทุนก็คลายความกังวลลง
"ตลาดได้ตอบรับไปแล้วทั้งเรื่องของเฟดที่จะลด QE และเรื่องมูดี้ส์ ซึ่งเป็นประเด็นหลักทำให้หุ้นเราลงมาตอบรับ แต่เมื่อมูดี้ส์ออกมาพูดในทำนองนี้เรื่องมูดีส์กลับด้านก็จะดีขึ้น และ ณ ระดับ P/E 15 เท่า 1,500 จุด บวกลบ ก็มีความน่าสนใจในการกลับเข้าไปซื้อในช่วงนี้"นายธนเดช กล่าว
ขณะที่ตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียช่วงเช้านี้มีตลาดที่ดัชนีเป็นบวกและเป็นลบคละกันไป
พร้อมให้กรอบการแกว่ง 1,480-1,520 จุด
ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :
- ตลาดหุ้นนิวยอร์ควานนี้(6 มิ.ย.)ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 15,040.62 จุด เพิ่มขึ้น 80.03 จุด(+0.53%) ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 1,622.56 จุด เพิ่มขึ้น 13.66 จุด(+0.85%) และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 3,424.05 จุด เพิ่มขึ้น 22.58 จุด(+0.66%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 197.61 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 0.15 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 70.19 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 17.81 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 5.36 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 6.42 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ เพิ่มขึ้น 2.33 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 0.26 จุด และดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลีย เพิ่มขึ้น 0.30 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดวานนี้(6 มิ.ย.)ที่ 1,490.21 จุด ลดลง 32.45 จุด(-2.13%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 4,697.34 ล้านบาท เมื่อ 6 มิ.ย.56
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการวานนี้(6 มิ.ย.)ที่ 94.76 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 1.02 ดอลลาร์ฯ เซนต์
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดวานนี้(6 มิ.ย.)ที่ 9.30 เหรียญฯ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิดตลาดที่ระดับ 30.57/59 จับตาเงินทุนไหลออกตลาดหุ้น-บอนด์
- ตลท.เตือนอย่าตื่นหุ้นร่วมหนัก เป็นทิศทางเดียวกับตลาดทั่วโลก จากความกังวลเฟดลดมาตรการคิวอี รอลุ้นตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรวันนี้ มั่นใจพื้นฐานเศรษฐกิจไทยยังแกร่ง ขณะที่โบรกเกอร์เมินแรงขายต่างชาติ ประเมินแค่ระยะสั้น ชี้หุ้นไทยยังน่าสนใจ เมื่อเทียบภูมิภาค
- ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยผลการสำรวจความเชื่อมั่นเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยเดือน พ.ค.2556 จากประชาชนทั่วประเทศจำนวน 2,247 คน ว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคอยู่ที่ระดับ 82.5 ปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 จากระดับ 83.7 สะท้อนให้เห็นว่าบรรยากาศทางเศรษฐกิจเริ่มชะลอและมีแนวโน้มที่ค่าดัชนีจะปรับลดลงได้อีก 1.1-1.3
- คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้ร่วมหารือกับนายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และทีมกฎหมาย เมื่อวันที่ 6 มิ.ย. เพื่อให้รัฐบาลนำข้อเสนอแนะไปพิจารณาป้องกันการทุจริตโครงการบริหารจัดการน้ำ มูลค่า 3.5 แสนล้านบาท
- "ออง ซาน ซูจี" ผู้นำฝ่ายค้านพม่าประกาศกลางเวทีดับเบิลยูอีเอฟ เสนอตัวลงชิงเลือกตั้งประธานาธิบดีพม่าปี 2558 ขณะที่ผู้นำทั่วโลกแสดงวิสัยทัศน์คึกคักยกย่องอาเซียนเป็นความหวังเศรษฐกิจในอนาคต ด้าน "เอดีบี" จี้พม่าเร่งพัฒนาพลังงาน ชี้ประชาชน 3 ใน 4 ของประเทศไม่มีไฟฟ้าใช้
- ตลาดหุ้นไทยทรุดแรงแซงเพื่อนบ้านดัชนีหลุดจุดสำคัญ 1,500 จุด ไปเรียบร้อยแล้ว เกิดจากแรงขายหุ้นของนักลงทุนต่างชาติมากถึง 4,711 ล้านบาท แต่ขายในตลาดตราสารหนี้เพียง 135 ล้านบาท
*หุ้นเด่นวันนี้
- MODERN(เกียรตินาคิน)"ซื้อ"เป้า 14.30 บาท จัดอยู่ในกลุ่มหุ้นปลอดภัยในช่วงตลาดขาลงจากพื้นฐานที่แข็งแกร่ง โดยปัจจุบันมีส่วนแบ่งตลาดอันดับ 1(30%)กลุ่มเฟอร์นิเจอร์สำนักงาน ขณะที่กลุ่มเฟอร์นิเจอร์ค้าปลีกสำหรับที่อยู่อาศัยเป็นสินค้าพรีเมี่ยมแตกต่างจากคู่แข่งอย่าง SB และ INDEX เราคาด MODERN จะมีกำไรสุทธิ 3 ปีข้างหน้าเติบโตเฉลี่ยต่อปี 20% (CAGR 56-58)ปีนี้คาดกำไรสุทธิ 479 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17% YoY คาดมีแนวโน้มจ่ายเงินปันผลอัตรา 100% ของกำไรสุทธิ หรือหุ้นละ 0.60 บาท
- MAJOR(เกียรตินาคิน)"ซื้อเก็งกำไร"เป้า 24.60 บาท คาดผลประกอบการงวด 2Q56 จะเติบโตอย่างโดดเด่น ผลจากการที่มีภาพยนตร์ทำรายได้ Box Office สูงเข้าฉายหลายเรื่อง (พี่มาก 568 ลบ., Iron Man3 269 ลบ. และ Fast6 ทำรายได้ไปแล้ว 181 ลบ.) นอกจากนี้ ช่วงไตรมาส 2 ยังเป็นช่วงไฮซีซั่นของการใช้งบโฆษณาอีกด้วย ยังคงคาดกำไรปกติปี 2556 เติบโตโดดเด่น 65% YoY จากหน้าหนังที่แข็งแรงและแผนการขยายโรงภาพยนตร์เพิ่มขึ้นกว่า 100 โรง
- BTS(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"เป้า 10.50 บาท ราคาหุ้นปรับตัวลงเป็นโอกาสซื้อ อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลงวดปี 2014 (เม.ย.2013 - มี.ค. 2014) การันตีไม่ต่ำกว่า 6.2% และจะเพิ่มขึ้นในอีก 2 ปีถัดไป ขณะที่คาดกำไร 1Q14 (เม.ย.-มิ.ย. 2013) จะทำสถิติสูงสุดใหม่จากกำไรพิเศษจากธุรกรรมเกี่ยวกับ BTSGIF นอกจากนั้น ในช่วงปลายปีนี้คาดมีปัจจัยบวกจากการเข้าประมูลงานรถไฟฟ้า
- BECL(ฟินันเซีย ไซรัส)รายงานปริมาณการใช้ทางด่วนเฉลี่ยต่อวันในเดือน พ.ค.เพิ่มขึ้น 2.6% Y-Y และ 5.1% M-M ทำให้ยอดรวม 5M13 เพิ่มขึ้น 2.3% Y-Y เราคาดกำไร 2Q13 โตโดดเด่น Y-Y การรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจาก TTW เต็มไตรมาสเป็นครั้งแรก และ CKP จะขาย IPO เดือนนี้ ซึ่ง BECL ได้ร่วมขายหุ้น CKP ด้วย 20.6 ล้านหุ้น ทำให้มีกำไรพิเศษเกิดขึ้น
- JAS(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)“ซื้อเก็งกำไร"เป้า 12.40 บาท ราคาหุ้นปรับตัวลงถึง 20% ในช่วง 4 วันทำการที่ผ่านมาหลัง CTH ประกาศเป็นพันธมิตรร่วมกับ INET เชื่อตลาดกังวลมากเกินไปแม้มีคู่แข่งรายใหม่เกิดขึ้น แต่ด้วยขนาดของตลาด Internet Broadband ที่ยังโตได้อีกมาก จึงเชื่อว่าการแข่งขันแย่งชิงลูกค้าไม่รุนแรงมากนัก ขณะที่ผลประกอบการ 2Q56 ยังมีทิศทางขยายตัวทั้ง yoy และ qoq ตามการเติบโตของจำนวนผู้ใช้บริการอย่างต่อเนื่อง จึงยังคงประมาณการกำไรปี 2556 ที่ 3,309 ล้านบาท หรือ เติบโต +54.9% yoy และคาดว่าราคาหุ้นมีแนวโน้มดีดกลับได้