การระดมทุนผ่านการเสนอขายหุ้น IPO จะนำเงินไปใช้ในการขยายคลังสินค้าแห่งใหม่ของตัวเองเพื่อรองรับการเติบโตของบริษัทในอนาคต จากเดิมที่บริษัทเช่าคลังสินค้าหลายแห่งพื้นที่รวมกันประมาณ 8,100 ตารางเมตร โดยบริษัทจะใช้พื้นที่สร้างคลังสินค้าแห่งใหม่ 7,500 ตารางเมตรในย่าน คาดว่าจะใช้เงินลงทุนราว 180 ล้านบาท ซึ่งจะมีการก่อสร้างในช่วงเดือน ต.ค.56 และคาดว่าก่อสร้างเสร็จในเดือน มิ.ย.57
ทั้งนี้ หลังจากบริษัทได้เสนอขายหุ้น IPO ครั้งนี้แล้วจะทำให้ทุนจดทะเบียนของบริษัทเพิ่มเป็น 350 ล้านบาท จากทุนจดทะเบียนเดิม 250 ล้านบาท และมีจำนวนหุ้นทั้งหมด 700 ล้านหุ้น จาก 500 ล้านหุ้น
นายสมพงษ์ คาดว่า รายได้ของ CSS ในปี 56 จะเติบโตราว 10-15% จากปีก่อนที่มีรายได้รวม 3.3 พันล้านบาท และกำไรจะดีกว่าปี 55 ที่มีกำไรอยู่ที่ 158 ล้านบาท โดยสัดส่วนรายได้หลักประมาณ 80% มาจากการเทรดดิ้งในงานจัดจำหน่ายและการให้บริการติดตั้งสายไฟฟ้า อุปกรณ์ ระบบงานไฟฟ้า รวมถึงวัสดุและอุปกรณ์ป้องกันไฟลามจากผู้ผลิตชั้นนำระดับโลก อย่างเช่น 3M และอีก 20% มาจากธุรกิจติดตั้ง บริการออกแบบ จัดหา และติดตั้งระบบโทรคมนาคมรวมทั้งการให้บริการงานด้านบำรุงรักษาระบบโทรคมนาคม ซึ่งเป็นงานที่มีอัตรากำไร(มาร์จิ้น)สูงกว่าธุรกิจเทรดดิ้ง
ปัจจุบัน บริษัทมีมูลค่างานในมือ(Backlog)ซึ่งเป็นงานรับติดตั้งในระบบโทรคมนาคมอยู่ที่ 300 ล้านบาท และมีงานที่รอเซ็นสัญญาช่วงกลางปีนี้อีกราว 380-400 ล้านบาท พร้อมทั้งคาดว่าช่วงที่เหลือของปีนี้มีโอกาสได้รับงานเพิ่มเติมอีก นอกจากนี้ บริษัทมีแผนการขยายธุรกิจเข้าไปในพม่า โดยเฉพาะในงานติดตั้งอุปกรณ์ระบบโทรคมนาคม ซึ่งปัจจุบันรอผลการประมูลสัมปทานระบบ 3G ที่คาดว่าทางการพม่าจะประกาศผลในวันที่ 27 มิ.ย.56 ซึ่งจะทำให้บริษัทมีความชัดเจนเกี่ยวกับการลงทุนในพม่าภายในไตรมาส 3/56
"บริษัทคาดว่าหุ้น IPO จะได้กระแสตอบรับที่ดีจากนักลงทุนที่ดี เนื่องจากบริษัทมีปัจจัยพื้นฐานที่ดีและธุรกิจมีการเติบโตขึ้นจากภาคธุรกิจโทรคมนาคมที่เป็นปัจจัยหนุนและภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มีการลงทุนมากขึ้น ทำให้บริษัทมีมูลค่างานในมือเพิ่มมากขึ้นและสามารถรับรู้รายได้ได้มากขึ้น ทำให้บริษัทมีการเติบโตเพิ่มสูงขึ้นตาม" นายสมพงษ์ กล่าว
ด้าน น.ส.ปิ่นมณี เมฆมัณฑนา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทริปเปิ้ล เอ พลัส แอดไวเซอรี่ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน CSS กล่าวว่า บริษัทได้ยื่นไฟลิ่งของ CSS ครั้งแรกไปตั้งแต่เดือน มี.ค.56 และขณะนี้ได้ยื่นฉบับแก้ไขปรับปรุงไปแล้ว
ต่อจากนี้บริษัทเตรียมจะเดินสายนำเสนอข้อมูลให้แก่นักลงทุนทั่วประเทศ ซึ่งบริษัทมีความมั่นใจว่า CSS จะได้รับผลตอบรับที่ดีจากนักลงทุนอย่างต่อเนื่อง จากการที่บริษัทมีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง มีผลประกอบการที่เติบโตอย่างต่อเนื่องทั้งรายได้และกำไร โดยในปี 55 ธุรกิจโทรคมนาคมเติบโต 120% เมื่อเทียบกับปี 54 จึงเชื่อว่าเป็นหุ้นที่เหมาะสมต่อการลงทุนในระยะยาวและคาดว่าจะเป็นหุ้นที่มีการเติบโตและจ่ายปันผลสูง