นอกจากนั้น ในปีนี้ QH มีแผนเปิดโครงการใหม่ 20 โครงการ เป็นคอนโดมิเนียม 5 โครงการ มูลค่ารวม 7,668 ล้านบาท และโครงการแนวราบ 15 โครงการ มูลค่ารวม 11,702 ล้านบาท นับตั้งแต่ต้นปีจนถึงไตรมาส 2/56 ทาง QH ได้เปิดขายไปแล้ว 9 โครงการ
ช่วงครึ่งปีหลัง QH มีโอกาสบันทึกกำไรพิเศษเพิ่มเติมจากการขายสินทรัพย์แห่งสุดท้ายคือ Serviced Apartment Centre Point สีลม เข้ากองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่า ควอลิตี้ เฮ้าส์ โฮเทล แอนด์ เรซิเดนซ์(QHHR) ซึ่งคาดจะบันทึกกำไรสุทธิอีกราว 120 ล้านบาท อีกทั้งยังได้รับผลตอบแทนที่ดีจากการลงทุนใน HMPRO และ LH ด้วย
พร้อมคาดการณ์กำไรสุทธิปีนี้ที่ 2,400-2,528 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 55 ที่มีกำไรสุทธิ 2,386 ล้านบาท ทั้งนี้ในปีก่อน QH มีการขายสินทรัพย์เข้ากองทุนอสังหาฯจำนวนมาก
โบรกเกอร์ คำแนะนำ ราคาเป้าหมาย(บาท/หุ้น)
บล.ดีบีเอส วิคเคอร์สฯ ซื้อ 6.40
บล.ทิสโก้ ซื้อ 6.00
บล.เกียรตินาคิน ซื้อ 5.75
บล.ธนชาติ ซื้อ 5.70
บล.ทรีนีตี้ ซื้อ 5.40
บล.เอเชีย พลัส ซื้อ 5.00
บล.ฟินันเซีย ไซรัส ซื้อ 5.00
นายเทิดศักดิ์ ทวีธีรธรรม ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.เอเชียพลัส กล่าวว่า QH เป็นหุ้นที่น่าสนใจเข้าไปลงทุน เนื่องจากกำไรมีการเติบโตดีจากการออกโครงการใหม่อย่างต่อเนื่อง ทำให้ยอดขายรอโอน(Backlog)เติบโตได้เรื่อย ๆ โดย ณ สิ้นไตรมาส 1/56 บริษัทฯมี Backlog อยู่ประมาณ 8,000 ล้านบาท และขีดความสามารถในการทำได้ตามประมาณการดูดีขึ้น
ปีนี้ QH มีแผนจะเปิดโครงการคอนโดมิเนียม 5 โครงการ มูลค่ารวม 7,668 ล้านบาท เปิดโครงการแนวราบ 15 โครงการ มูลค่ารวม 11,702 ล้านบาท
พร้อมคาดการณ์กำไรปกติปีนี้ไว้ที่ 2,486 ล้านบาท เติบโตจากปีที่แล้วที่มีกำไร 1,689 ล้านบาท ซึ่งการเติบโตของ QH ในปีนี้มาจากยอดขายและมาร์จินที่ดีขึ้น โดยยอดขายปีนี้คาดไว้ที่ 17,500 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วที่มียอดขาย 13,000 ล้านบาท
สำหรับอัตราการจ่ายเงินปันผล(Divident Yield)ก็อยู่ในเกณฑ์ที่ดีใช้ได้ หากคิดราคาหุ้น QH ที่ 4.06 บาท/หุ้น Divident Yield ก็จะเท่ากับ 3.7%
ด้าน น.ส.วิชชุดา ปลั่งมณี รองผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เกียรตินาคิน ให้เหตุผลที่แนะนำ"ซื้อ"หุ้น QH ว่า ยอดขายปีนี้ทำได้ดีขึ้น โดยเฉพาะแนวราบ และยังได้รับผลตอบแทนที่ดีจากการลงทุนใน HMPRO และ LH ด้วย รวมทั้งการที่บริษัทปรับการก่อสร้างแบบใหม่ ทำให้สามารถเร่งการก่อสร้างสินค้าระดับล่างได้เร็วขึ้น และ gross margin ก็มีโอกาสที่จะดีขึ้นด้วย
ทั้งนี้ ยอดขายในปีนี้คาดไว้ที่ 17,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30% จากปีที่แล้วที่มียอดขาย 13,077 ล้านบาท เนื่องจากต้นปีที่แล้วยังได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำท่วม และในปีนี้บริษัทฯมีแผนเปิดโครงการใหม่ 20 โครงการ มูลค่ารวม 19,370 ล้านบาท เป็นแนวราบ 15 โครงการ และคอนโดมิเนียม 5 โครงการ นับตั้งแต่ต้นปีจนถึงไตรมาส 2/56 เปิดไปแล้ว 9 โครงการ
พร้อมคาดการณ์กำไรสุทธิปี 56 ไว้ที่ 2,400 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 55 ที่มีกำไรสุทธิ 2,386 ล้านบาท ทั้งนี้ในปี 55 ทาง QH มีการขายสินทรัพย์เข้ากองทุนอสังหาฯจำนวนมาก
ส่วน บล.ทรีนีตี้ ระบุในบทวิเคราะห์ฯแนะ"ซื้อ"หุ้น QH ด้วยราคาเป้าหมาย 5.40 บาท แนวโน้มรวมในปี 56 คาดว่าบริษัทจะมีรายได้เท่ากับ 17,435 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 33.3% yoy โดยคาดว่าจะมีกำไรสุทธิไม่รวมกำไรพิเศษที่ 2,528 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.3% yoy พร้อมคาดยอด Presale ปีนี้จะสูงถึง 2 หมื่นล้านบาท
ในช่วงครึ่งปีหลัง QH มีโอกาสบันทึกกำไรพิเศษเพิ่มเติมจากการขายสินทรัพย์แห่งสุดท้ายคือ Serviced Apartment Centre Point สีลม เข้า QHHR ซึ่งคาดจะบันทึกกำไรสุทธิอีกราว 120 ล้านบาท