นอกจากนี้ยังมีรายได้เพิ่มจากการผลิตชิ้นส่วนรถแทรคเตอร์ของคูโบต้าที่มีการผลิตรถแทรคเตอร์ในปีนี้เพิ่มอีก 10% ส่วนการผลิตรถยนต์อีโคคาร์ในปีนี้จะได้รับผลกระทบน้อย เนื่องจากมีสัดส่วนรายได้ไม่มาก อย่างไรก็ตามในปีนี้ก็ยังมีรายได้ต่อเนื่องจากการทยอยส่งมอบรถยนต์คันแรกที่ยังค้างส่งอีก 300,000 คัน โดยในไตรมาสแรกของปีนี้ส่งไปแล้ว 100,000 คัน
สำหรับในไตรมาส 2/56 คาดว่ายอดขายจะเติบโตดีกว่าไตรมาส 2/55 ราว 4-5% แม้ว่าเมื่อเทียบกับไตรมาส 1/56 ยอดขายจะลดลงราว 20% ซึ่งไตรมาส 2 ของทุกปีเป็นช่วงที่มียอดขายต่ำที่สุดจากการที่ค่ายรถยนต์มีการผลิตรถยนต์ลดลงและมีวันหยุดค่อนข้างมากทำให้ยอดขายในไตรมาส 2 ต่ำที่สุด และคาดว่าจะเริ่มฟื้นตัวขึ้นในไตรมาส 3 และไตรมาส 4
นายยงเกียรติ กล่าวว่า บริษัทยังได้รับงานใหม่ในการผลิตเพลาข้าง (Axle Shaft) ให้กับรถบรรทุกขนาดใหญ่ของ HINO ซึ่งจะเริ่มผลิตในไตรมาส 4/56 และรับรู้รายได้เต็มปีในปี 57 และบริษัทอยู่ระหว่างศึกษาแผนการร่วมทุนกับพันธมิตรในอินเดีย เพื่อลงทุนตั้งโรงงานผลิตเพลาข้าง (Axle Shaft) โดยบริษัทจะเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ หรือเกิน 50% มูลค่าการลงทุนราว 400-500 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าสิ้นปีนี้จะได้ข้อสรุปที่ชัดเจน และยังมีการพิจารณาแผนการลงทุนในประเทศอินโดนีเซียต่อไป เพื่อเป็นแผนในการรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC)
ทั้งนี้ บริษัทตั้งงบลงทุนในปี 56-57 อยู่ที่ 1.8 พันล้านบาท โดยแบ่งเงินลงทุนเฉลี่ยปีละ 800-900 ล้านบาท เพื่อปรับปรุงและซื้อเครื่องจักรที่เป็นออโต้มากขึ้น และขยายโรงงานเพื่อขยายกำลังการผลิตเพิ่ม