(เพิ่มเติม) EA คาดกำไรปีนี้โตก้าวกระโดด หลังปริมาณขายไบโอดีเซลเพิ่ม-รับรู้ขายไฟฟ้า

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday June 11, 2013 13:43 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ.พลังงานบริสุทธิ์ (EA) คาดว่า ในปีนี้กำไรจะโตก้าวกระโดด หลังปริมาณขายไฟฟ้าเพิ่มต่อเนื่อง ส่วนในไตรมาส 2/56 เชื่อว่าจะดีกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน หลังมีการปรับปรุงโครงสร้างโรงงาน และรับรู้รายได้จากโครงการโซล่าฟาร์มและรายได้จากบริษัทลูก

นายอมร ทรัพย์ทวีกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน EA เปิดเผยว่า กำไรในไตรมาส 2 จะเติบโตดีกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการรับรู้รายได้ของโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ขนาด 8 เมกะวัตต์เข้ามาเต็มปี และการลงทุนปรับปรุงโรงงาน เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันให้ดีขึ้น รวมถึงมีรายได้ของบริษัทลูก ESM เข้ามาอีกด้วย

ขณะที่ปี 56 บริษัทคาดว่ากำไรจะเติบโตอย่างก้าวกระโดดเมื่อเปรียบเทียบกับปี 55 เนื่องจากปริมาณขายไบโอดีเซลเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง คาดว่าปริมาณการขายจะอยู่ที่ 120 ล้านลิตร รวมถึงเมื่อโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ขนาด 90 เมกะวัตต์ ที่จังหวัดนครสวรรค์ก่อสร้างเสร็จก็จะสามารถรับรู้กำไรได้ในปีนี้ และหากรัฐบาลมีการผลักดันให้ปรับส่วนผสมไบโอดีเซลจาก 5% เป็น 7% มองว่าบริษัทฯจะได้รับอานิสงส์จากการขายไบโอดีเซลเพิ่มขึ้น เนื่องจากมีปริมาณการใช้เพิ่มขึ้น

สำหรับความคืบหน้าการก่อสร้างโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ กำลังการผลิต 90 เมกะวัตต์ ที่อำเภอตาคลี จังหวัดนครสวรรค์ บนพื้นที่ 1,850 ไร่ ขณะนี้มีความคืบหน้าไปมากแล้ว คาดว่าจะสามารถติดตั้งแผงโซลาร์ได้ในเดือน ก.ค.นี้ หลังจากที่งานด้านโยธา เช่น การปรับพื้นที่และการทำระบบระบายน้ำเพื่อป้องกันน้ำท่วม ดำเนินการเสร็จเรียบร้อยแล้ว ทำให้มีความเชื่อมั่นว่าโครงการดังกล่าวจะสามารถจ่ายไฟฟ้าให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ได้ทันตามกำหนดสัญญาวันที่ 1 ธ.ค.56 และเริ่มรับรู้รายได้และกำไรเต็มปีตั้งแต่ปี 57 เป็นต้นไป โดยได้ประมาณการรายได้สำหรับโครงการโรงไฟฟ้าดังกล่าวที่ 1,586 ล้านบาทต่อปี และกำไรสุทธิ 915 ล้านบาทต่อปี

นอกจากนี้ บริษัทมีแผนดำเนินการก่อสร้างโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์อีก 6 เดือนข้างหน้า ที่จังหวัดลำปาง ขนาด 90 เมกะวัตต์ ซึ่งจะใช้งบส่วนหนึ่งจากงบลงทุนรวม 6,680 ล้านบาทที่ก่อสร้างโครงการโรงไฟฟ้าทั้งหมด 4 โครงการ ปัจจุบันใช้ไปทั้งสิ้นกว่า 1,000 ล้านบาทแล้ว

รวมถึงบริษัทมีแผนลงทุนสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานลม 17 โครงการ กำลังการผลิตรวม 806 เมกะวัตต์ แบ่งเป็นภาคใต้ จังหวัดนครศรีธรรมราช 2 โครงการ ขนาด 90 เมกะวัตต์ และจังหวัดสงขลา 2 โครงการ ขนาด 81 เมกะวัตต์ และภาคอีสาน 13 โครงการ แบ่งเป็นจังหวัดชัยภูมิ 11 โครงการ ขนาด 535 เมกะวัตต์ และจังหวัดมุกดาหาร 2 โครงการ ขนาด 100 เมกะวัตต์ ขณะนี้อยู่ระหว่างการขออนุญาตก่อสร้าง

ทั้งนี้ สัดส่วนรายได้จากโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ทั้ง 4 โครงการและไบโอดีเซล จะมีสัดส่วน 50:50 และหากพลังงานลมก่อสร้างเสร็จจะมีสัดส่วนอยู่ที่ 40%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ