สำหรับ พันธบัตรรัฐบาล รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุดในวันนี้คือ พันธบัตรรุ่น LB155A LB21DA และ LB176A (รุ่นอายุ 1.9 ปี 8.5 ปี และ 4.0 ปี ตามลำดับ) โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 16,728 ล้านบาท หรือคิดเป็น 67% ของมูลค่าการซื้อขายพันธบัตรรัฐบาลทั้งหมด ทางด้าน หุ้นกู้เอกชน รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรกในวันนี้ คือ หุ้นกู้ของ
1. อินโดรามา เวนเจอร์ส (IVL16OB) มูลค่า 515 ล้านบาท
2. บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) (CPF185A) มูลค่า 322 ล้านบาท
3. บริษัท น้ำตาลขอนแก่น จำกัด (มหาชน) (KSL139A) มูลค่า 303 ล้านบาท
โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 1,140 ล้านบาท หรือคิดเป็น 49% ของมูลค่าการซื้อขายหุ้นกู้เอกชนทั้งหมดในวันนี้
ทางด้านประเภทของนักลงทุน ที่มียอดซื้อสุทธิ สูงที่สุดเป็น 2 อันดับแรกในวันนี้ คือ
1. กลุ่มบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ซื้อสุทธิ 11,814 ล้านบาท
2. กลุ่มบริษัทจดทะเบียนในประเทศ ซื้อสุทธิ 5,381 ล้านบาท
ในขณะที่นักลงทุนต่างชาติ มียอดขายสุทธิ มูลค่า 500 ล้านบาท
Yield Curve ปรับเพิ่มขึ้นในทุกช่วงอายุตราสาร ในช่วง 1 - 23 bp โดยเฉพาะพันธบัตรระยะยาวรุ่นอายุ 3 ปีขึ้นไป ปรับเพิ่ม 11 - 23 bp ภายหลัง S&P ปรับเพิ่มแนวโน้มความน่าเชื่อถือของสหรัฐฯ จาก Negative เป็น Stable ทำให้นักลงทุนส่วนใหญ่จับตาดูกระแสเงินทุนเคลื่อนย้ายว่าจะมีการโยกกลับเข้าสู่สหรัฐฯ หรือไม่ และจะกระทบต่อตลาดตราสารหนี้และตลาดหลักทรัพย์มากน้อยเพียงใด สำหรับนักลงทุนต่างชาติมีแรงขายในพันธบัตรระยะยาว หรือมียอดขายสุทธิเท่ากับ 500 ล้านบาท