สำหรับ พันธบัตรรัฐบาล รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุดในวันนี้คือ พันธบัตรรุ่น LB155A LB21DA และ LB196A (รุ่นอายุ 1.9 ปี 8.5 ปี และ 6.0 ปี ตามลำดับ) โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 19,144 ล้านบาท หรือคิดเป็น 71% ของมูลค่าการซื้อขายพันธบัตรรัฐบาลทั้งหมด ทางด้าน หุ้นกู้เอกชน รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรกในวันนี้ คือ หุ้นกู้ของ
1. บริษัท เอ็ม บี เค จำกัด (มหาชน) (MBK137A) มูลค่า 891 ล้านบาท
2. บริษัท โตโยต้า ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด (TLT14DA) มูลค่า 201 ล้านบาท
3. บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) (CPF163A) มูลค่า 128 ล้านบาท
โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 1,220 ล้านบาท หรือคิดเป็น 55% ของมูลค่าการซื้อขายหุ้นกู้เอกชนทั้งหมดในวันนี้
ทางด้านประเภทของนักลงทุน ที่มียอดซื้อสุทธิ สูงที่สุดเป็น 2 อันดับแรกในวันนี้ คือ
1. กลุ่มบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ซื้อสุทธิ 17,606 ล้านบาท
2. กลุ่มสถาบันการเงินที่ไม่มีใบอนุญาตค้าตราสารหนี้ ซื้อสุทธิ 1,231 ล้านบาท
ในขณะที่นักลงทุนต่างชาติ มียอดซื้อสุทธิ มูลค่า 4,197 ล้านบาท
Yield Curve ปรับตัวลดลงเกือบทุกช่วงอายุตราสาร ประมาณ 1 - 13 bp ตามทิศทางของ US Treasury โดยเฉพาะตราสารอายุ 5 — 10 ปี ปรับลดลงค่อนข้างมากถึง 13 bp จากแรงซื้อของนักลงทุนต่างชาติ ด้านนักลงทุนยังคงติดตามการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) ในสัปดาห์หน้า สำหรับนักลงทุนต่างชาติมีแรงซื้อทั้งในพันธบัตรระยะสั้นและระยะยาว หรือมียอดซื้อสุทธิเท่ากับ 4,197 ล้านบาท