บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ฯระบุในบทวิเคราะห์ฯว่า บมจ.เจริญโภคภัณฑ์อาหาร(CPF) ยังมีความเสี่ยงทางลงจากผลประกอบการ 2Q56 ยังฟื้นตัวได้ช้าและมีแนวโน้มลดลง YoY จากธุรกิจกุ้งที่ยังไม่ฟื้นตัว พร้อมปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี 56 ของหุ้น CPF ลง 50% มาอยู่ที่ระดับ 8.45 พันล้านบาท (รวมกำไรจากการขายหุ้น CPALL ใน 1Q56 กว่า 2.1 พันล้านบาทไว้แล้ว) ลดลง 55%YoY เพื่อสะท้อนผลประกอบการ 1H56 อ่อนแอกว่าที่คาดไว้ โดยปรับลดสมมติฐานอัตรากำไรขั้นต้นลงจาก 15% เหลือเพียง 11.8% แต่คงสมมติฐานยอดขายโต 15% ที่ระดับ 4.1 แสนล้านบาท
ทั้งนี้ ทิศทางราคาถั่วเหลืองตลาดโลกที่เริ่มปรับขึ้นตั้งแต่เดือนเม.ย.(ล่าสุด +8% จากเดือนเม.ย.) อาจกดดันต้นทุนวัตถุดิบในช่วง 2H56 ซึ่งคาดว่าน่าจะมีทิศทางอ่อนตัวลงตั้งแต่เดือนก.ย.เมื่อฤดูเก็บเกี่ยวผลผลิตในสหรัฐมาถึง และยังเป็นปัจจัยที่ต้องติดตาม
อย่างไรก็ดี ได้ปรับเพิ่มคำแนะนำเป็น“เก็งกำไร"ผลประกอบการฟื้นตัวอย่างมีนัยตั้งแต่ 3Q56 โดยโครงสร้างธุรกิจกว่า 87% เป็นสินค้าโภคภัณฑ์ (55% เป็นอาหารสัตว์และ 32% เป็นฟาร์มสัตว์) ซึ่งเพิ่มมูลค่าได้ยากและผันผวนตามส่วนต่างระหว่างราคาผลิตภัณฑ์-วัตถุดิบตลาดโลก ขณะที่ 27% มาจากตลาดจีนที่การแข่งขันรุนแรงทำให้การเติบโตด้านยอดขายยังคงท้าทาย ทำให้ผลประกอบการยังคงมีโอกาสผันผวนจากปัจจัยภายนอกและคาดการณ์แนวโน้มระยะยาวได้ยาก
แต่ด้วยราคาหุ้นปัจจุบัน (1.7xP/BV) เริ่มซื้อขายถูกกว่าค่าเฉลี่ยอดีต (2xPBV) กอปรกับการฟื้นตัวผลประกอบการรายไตรมาสตั้งแต่ 2Q56 เป็นปัจจัยสนับสนุนการเข้าลงทุนระยะสั้น ปรับมูลค่าพื้นฐานขึ้น 4% ที่ระดับ 29 บาทอิงกับ 13xP/E ค่ากลางของกลุ่มอาหารในภูมิภาคสำหรับผลประกอบการปี 57 โดยมองความเสี่ยงทางลงที่ระดับ 21 บาท (13xP/E สำหรับผลประกอบการเฉลี่ยปี 56-57) กรณีผลประกอบการไม่เป็นไปตามคาด