ทั้งนี้ก่อนหน้าที่จะเปิดให้บริการดังกล่าว ในวันที่ 21 มิ.ย.นี้ จะเริ่มให้พนักงานของบริษัทฯ กว่า 5,000 คน ได้เข้าสู่ในระบบไตรเน็ต หลังจากนั้น 2-3 สัปดาห์จะพัฒนาเครือข่ายให้สมบูรณ์ก่อนเปิดให้บริการลูกค้า พร้อมกันนี้บริษัทตั้งเป้าปีนี้จะขยายสถานีฐานให้ได้ 5,000 สถานี และโดยคาดว่าในเดือนส.ค. ถึงเดือน ก.ค.จะสามารถขยายสถานีฐานได้ 3,000 แห่ง
ทั้งนี้ดีแทคได้เตรียมจัดโปรโมชั่น 3 แพ็คเกจ ในชื่อ More Choice ซึ่งให้ส่วนลดค่าบริการสูงสุดถึง 81% มากกว่าที่ทางคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กำหนดว่าให้ผู้ประกอบการต้องลดค่าบริการลง 15%
นายอับดุลลาห์ กล่าวว่า บริษัทมีแผนลงทุนต่อการประมูลคลื่นความถี่เพิ่มเติม หากมีการเปิดประมูลสัมปทานคลื่นความถี่จากผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือที่จะหมดอายุสัมปทานลง ทั้งย่าน 1,800 เมกะเฮิร์ต และ 900 เมกะเฮิร์ต นอกจากนี้ทาง DTAC มีความยินดีที่จะลงทุนต่อเนื่องและยินดีนำคลื่นความถี่ปัจจุบันที่อยู่ย่าน 1800 เมกะเฮิร์ต ที่มีอยู่ 50 เมกะเฮิร์ตเข้าไปร่วมประมูล 4Gด้วย เนื่องจากเห็นว่าหากมีการเตรียมตัวประมูลคลื่นความถี่ก่อนจะหมดอายุสัญญาสัมปทานจริง จะทำให้เกิดการเตรียมตัวเพื่อให้บริการการสื่อสารแก่ประชาชนในอนาคต ขณะเดียวกันก็ได้มีการพูดคุยกับทาง กสทช.บ้างแล้วในเรื่องดังกล่าว
"ผมมีความยินดีที่จะนำเอาคลื่นความถี่ 50 เมกะเฮิร์ตเข้าร่วมประมูล ร่วมกับการประมูลสัมปทานคลื่นความถี่ 900 และ 1,800 เมกะเฮิร์ต ที่จะหมดอายุลง โดยมองว่าจะทำให้มีแรงบิตเพิ่มมากขึ้นเป็น 100 เมกะเฮิร์ต ซึ่งจะส่งผลดีต่อการขยายตัวในระบบอินเตอร์เน็ตและการสื่อสารให้มีความเติบโตได้อย่างรวดเร็ว และเพื่อรองรับความต้องการใช้งานในอนาคตด้วย" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร DTAC กล่าว
ด้านนายชัยยศ จิรบวรกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มลูกค้า DTAC กล่าวว่า ในปีนี้ DTAC ใช้งบลงทุนกว่า 800 ล้านบาท เพื่อให้บริการลูกค้ากว่า 26.5 ล้านราย โดยยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง เพื่อตอบสนองความต้องการได้อย่างครบถ้วน ซึ่งปัจจุบันลูกค้ามีหลากหลายเชื้อชาติและภาษา และมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้งานที่มีแนวโน้มใช้ดาต้าในการใช้ค้นหาข้อมูลข่าวสารและติดต่อกันทางโซเชียลมีเดียมากขึ้น โดยดีแทคได้เปิดคอลล์เซ็นเตอร์ 10 ภาษา คือ จีน พม่า, ลาว, กัมพูชา, Bahasa มาลายู, Bahasa อินโดนีเซีย, เวียดนาม, ยาวี, ญี่ปุ่น, และอังกฤษ เพื่อรองรับนักท่องเที่ยว และแรงงานต่างชาติ
รวมทั้งพัฒนาการให้บริการลูกค้าทางโซเชียลมีเดีย ทั้ง Facebook E-Service ทางดีแทคเว็บไซต์ เว็บไซต์ Pantip และ Line เพื่อให้ตอบสนองไลฟ์สไตล์ลูกค้ายุคใหม่ พร้อมกันนี้ดีแทคยังได้ปรับโครงสร้างช่องทางใหม่ เพื่ออำนวยความสะดวกให้ลูกค้าในการติดต่อกับดีแทคให้ได้รับความสะดวกสบาย สอดคล้องกับรูปแบบการใช้บริการของลูกค้ามากขึ้น
นอกจากนี้เมื่อวันที่ 14 มิ.ย.ที่ผ่านมาดีแทคได้จัดโครงการ 77/77 อินเทอร์เน็ต ฟอร์ ออล โรด ทริป ไปยังภาคเหนือเพื่อทดสอบสัญญาณ TriNet ตามเป้าหมายสำคัญที่ได้วางไว้ในการสร้างความเท่าเทียม เข้าถึงอินเทอร์เน็ตทุกพื้นที่ และวางแผนใช้งบลงทุนในภาคเหนือและพื้นที่ชายแดนจำนวน 6,000 ล้านบาท ในระยะเวลา 3 ปี เพื่อขยายเครือข่ายให้ครอบคลุมทุกพื้นที่