(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้าผันผวน แต่ยังคาดหวังเม็ดเงิน"ทริกเกอร์ ฟันด์"ช่วยหนุน

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday June 17, 2013 09:40 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้มีโอกาสผันผวน จากแรงขายทำกำไรหลังจากที่เมื่อวันศุกร์ที่แล้วดัชนีฯได้ปรับตัวขึ้นแรง โดยตลาดฯอาจมีการเคลื่อนไหวในลักษณะบวก-ลบสลับกัน เนื่องจากน่าจะมีแรงซื้อเข้ามาจากเม็ดเงินของทริกเกอร์ ฟันด์ ที่ยังเข้ามาอยู่ ซึ่งเริ่มเข้ามาตั้งแต่ปลายสัปดาห์ที่แล้ว

อย่างไรก็ดี ตลาดฯกำลังรอดูการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด)ในวันพุธที่จะถึงนี้ สำหรับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่จะอยู่ในแดนบวกเล็กน้อย ซึ่งระหว่างเทรดก็มีโอกาสที่จะพลิกกลับได้ โดยเช้านี้ตลาดจีน และฟิลิปปินส์ อยู่ในแดนลบ และตลาดเกาหลีก็เริ่มที่จะเอนเอียงมาทางลบ

พร้อมให้แนวต้าน 1,480-1,485 จุด ส่วนแนวรับ 1,455 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์คล่าสุด(14 มิ.ย.)ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 15,070.18 จุด ลดลง 105.90 จุด(-0.70%) ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 1,626.73 จุด ลดลง 9.63 จุด(-0.59%) และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 3,423.56 จุด ลดลง 21.81 จุด(-0.63%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 102.15 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 3.95 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 38.14 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 15.91 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 0.21 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 10.93 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ เพิ่มขึ้น 6.85 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 1.79 จุด และดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลีย ลดลง 18.60 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(14 มิ.ย.)ที่ 1,465.27 จุด เพิ่มขึ้น 62.00 จุด(+4.42%)
  • นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 179.23 ล้านบาท เมื่อ 14 มิ.ย.56
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(14 มิ.ย.)ที่ 97.85 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 1.16 ดอลลาร์
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(14 มิ.ย.)ที่ 7.80 เหรียญฯ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิดตลาดที่ระดับ 30.54/56 แกว่งแคบตามภูมิภาค รอปัจจัยใหม่-ผลประชุมเฟด
  • เฟดประชุมทบทวนนโยบายเศรษฐกิจอังคารนี้ นักวิเคราะห์คาดยังไม่ชะลอมาตรการคิวอี เชื่อ "เบอร์นันเก้" ใช้จังหวะชี้แจงต่อตลาด ด้าน ธปท.กังวลเศรษฐกิจจีนชะลอ กระทบส่งออก ขณะที่หลายสำนักวิจัยเล็งหั่นเป้าเศรษฐกิจไทยปีนี้ลง
  • นายต่อตระกูล ยมนาค อดีตนายกวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดเผยว่า การประมูลโครงการบริหารจัดการน้ำ มูลค่า 3.5 แสนล้านบาท ที่ได้เอกชนผู้ชนะการประมูลไปเรียบร้อยแล้ว เข้าข่ายการกระทำผิดตามกฎหมายของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพราะคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) ประกาศเพียงงบประมาณ แต่ไม่ได้เปิดเผยราคากลาง
  • รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร(ไอซีที)เปิดเผยว่า สถานะรายได้ของบริษัท กสท โทรคมนาคม สิ้นปีนี้ มีความเป็นไปได้สูงที่จะขาดทุนเบื้องต้น 1,000 ล้านบาท เพราะขณะนี้โครงการลงทุนเพื่อรองรับรายได้อนาคต ทั้งโครงการขยายบริการโครงข่าย3จี และการลงทุนโครงข่ายอินเทอร์เน็ตผ่านสายไฟเบอร์ มูลค่ารวม 2.9 หมื่นล้านบาทยังไม่มีความชัดเจน
  • สมาคมแบงก์รับลูก ธปท.ร่วมใจลดค่าธรรมเนียมโอนเงินข้ามเขตผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ ทั้งอินเทอร์เน็ตแบงก์-มือถือ โดยมีผลต้นเดือนก.ค. นี้ รับอาจทำให้รายได้ค่าธรรมเนียมลดลง ด้าน ซีไอเอ็มบี เลิกเก็บค่าธรรมเนียมโอนข้ามเขตทางเน็ต หวังเพิ่มธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์แทนเงินสด
  • ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย เผยยกเลิกการเรียกประชุมหารือกับผู้บริหารธนาคารพาณิชย์ในเรื่องที่ไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ของธนาคารลงตามทิศทางอัตราดอกเบี้ยนโยบาย เนื่องจากที่ผ่านมาได้ให้เจ้าหน้าที่ ธปท.สอบถามไปที่ธนาคารพาณิชย์แล้วได้รับคำชี้แจงว่าสถานการณ์ของตลาดการเงินไม่แน่นอนมีความผันผวนสูง จึงต้องใช้เวลาประเมินสถานการณ์ก่อน
  • ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยเผยการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐและญี่ปุ่นที่มีแนวโน้มดีขึ้นนั้น ไม่น่าจะส่งผลดีต่อทิศทางของอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจ (จีดีพี) ไทย เนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐและญี่ปุ่นยังมีสัญญาณการฟื้นตัวที่ยังไม่ชัดเจน และยังมีความสำคัญกับประเทศคู่ค้าของไทยและประเทศไทยน้อยกว่าเศรษฐกิจของจีน

*หุ้นเด่นวันนี้

  • SIM(เกียรตินาคิน)"ซื้อ"เป้า 4.4 บาท ปัจจัยหนุนแข็งแกร่งอยู่ที่เซ็นสัญญาเพื่อเข้ามาทำตลาด MVNO กับ TOT ช่วงปลาย ก.ค.56 เบื้องต้นจะได้ทำตลาดลูกค้า 2.3 ล้านรายหรือ 40% ของปริมาณความจุโครงข่าย 3G TOT เฟส 1 โดยคาดว่าสัญญาใหม่จะมีอายุสัญญายาวกว่า 5 ปี คาดปี 56 จะมีรายได้จาก MVNO หลังหักส่วนแบ่งให้ TOT ประมาณ 384 ล้านบาท หรือมีสัดส่วนรายได้เพิ่มขึ้นเป็น 4% จาก 2% ในปี 55
  • BAFS(เกียรตินาคิน)"ซื้อ"เป้า 28 บาท ปรับประมาณการกำไรปี 56-57 เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะงปริมาณเติมน้ำมันโตตามจำนวนเที่ยวบิน นอกจากนี้ จะได้รับประโยชน์จากบริษัทลูก คือ FPT ที่ภาระดอกเบี้ยจ่ายลดลงหลังปรับโครงสร้างหนี้เสร็จ ขณะที่อนาคต FPT มีโอกาสโตจากแผนขยายระบบขนส่งน้ำมันภาครัฐ นอกจากนี้ บริษัท TARCO อยู่ระหว่างการเจรจาสัญญาสัมปทานในโครงการก่อสร้างระบบท่อขนส่งน้ำมันท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิเฟส 2 จำนวน 28 หลุมจอด คาดสรุปใน 3Q56
  • LOXLEY(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)“ซื้อเก็งกำไร"เป้า 9.20 บาท ปัจจัยบวกในช่วงสั้น คาด กบอ.เสนอรายชื่อบริษัทผู้ชนะการประมูลงานบริหารจัดการน้ำเข้าครม.พรุ่งนี้ โดย LOXLEY ได้คะแนนสูงสุดในโมดูล A6/B4 ระบบคลังข้อมูลและพยากรณ์เตือนภัย และคาดกำไรปกติ 2Q56 จะโตโดดเด่นเป็น 140—150 ล้านบาท โต +110-120% yoy จากรับรู้รายได้งาน 3G เฟส 1 ของ TOT ที่ล่าช้ามาจาก 1Q56 และใน 2H56 จะนำบริษัทลูก คือ ล็อกเลย์ ไวร์เลส (LW) เข้าจดทะเบียนในตลาด
  • THAI(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)"ซื้อ"เป้า 36.60 บาท ภาพระยะกลางกลับเริ่มดูดีขึ้น หลังการบริหารต้นทุนน้ำมันเชิงรุก รวมไปถึงการจะได้ประโยชน์โดยตรงจากแนวนโยบายของรัฐบาลญี่ปุ่นที่จะอนุญาตให้นักท่องเที่ยวไทยไม่ต้องทำวีซ่าเข้าประเทศญี่ปุ่นตั้งแต่ราว ก.ค. นี้

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ