ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์พุ่งขึ้น 109.67 จุด หรือ 0.73% ปิดที่ 15,179.85 จุด ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 12.31 จุด หรือ 0.76% ปิดที่ 1,639.04 จุด และดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 28.57 จุด หรือ 0.83% ปิดที่ 3,452.13 จุด
ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวขึ้นตั้งแต่ตลาดเปิดทำการซื้อขาย หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง โดยเฟดสาขานิวยอร์กรายงานว่า ดัชนีภาวะธุรกิจโดยรวม (Empire State Index) เดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้นแตะ 7.84 จาก -1.43 ในเดือนพ.ค. ซึ่งแสดงให้เห็นว่าภาวะทางธุรกิจของภาคการผลิตในนิวยอร์กได้กลับมาขยายตัวอีกครั้งในเดือนนี้
ขณะที่สมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB) ของสหรัฐ เปิดเผยว่าดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านสหรัฐในเดือนมิ.ย.พุ่งขึ้นแตะ 52 จาก 44 ในเดือนพ.ค. โดยดัชนีได้ปรับตัวเหนือระดับ 50 เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนเม.ย.2549 หรือในรอบ 7 ปี
ดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านในเดือนมิ.ย.ออกมาสูงกว่าคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ที่ระดับ 45 และแตะระดับสูงสุดนับแต่เดือนมี.ค.2549
นายริค จั๊ดสัน ประธาน NAHB กล่าวในแถลงการณ์ฉบับหนึ่งว่า ดัชนีที่สูงกว่าระดับอ้างอิงที่ 50 อย่างมีนัยสำคัญนี้ สะท้อนถึงความจริงที่ว่ากลุ่มผู้สร้างบ้านมองว่าภาวการณ์ของตลาดปรับตัวดีขึ้น ขณะที่ความต้องการบ้านใหม่เพิ่มสูงขึ้น
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้รับแรงหนุนจากความแข็งแกร่งของตลาดหุ้นยุโรปและตลาดหุ้นโตเกียว โดยเฉพาะดัชนีนิกเอิตลาดหุ้นโตเกียวซึ่งปิดพุ่งขึ้น 346.60 จุด หรือ 2.73% แตะที่ 13,033.12 จุดในการซื้อขายเมื่อวานนี้
อย่างไรก็ตาม แรงบวกได้ถูกสกัดลงในระหว่างวัน เนื่องจากนักลงทุนมีท่าทีระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่จะรับทราบผลการประชุมของเฟด โดยการประชุมระยะเวลา 2 วันของเฟดจะมีขึ้นในวันอังคารที่ 18 มิ.ย.และเสร็จสิ้นในวันพุธที่ 19 มิ.ย. ซึ่งนักลงทุนจับตาดูว่าเฟดจะยังคงเดินหน้าโครงการซื้อสินทรัพย์ในวงเงินปัจจุบันที่ 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือนต่อไปหรือไม่ หลังจากนายเบน เบอร์นันเก้ ประธานเฟดได้ส่งสัญญาณเมื่อวันที่ 22 พ.ค.ที่ผ่านมาว่า การลดขนาดโครงการซื้อสินทรัพย์ อาจจะมีขึ้นในการประชุมในอีกไม่กี่ครั้งข้างหน้า หากตลาดแรงงานของสหรัฐฟื้นตัวขึ้น
หุ้นสมิธฟิลด์ ฟู๊ดส์ ซึ่งเป็นบริษัทแปรรูปเนื้อสุกรรายใหญ่ระดับโลก ปรับตัวขึ้น 0.88% ขณะที่หุ้นซิสโก ซิสเต็มส์ ทะยานขึ้น 2.5%
ส่วนหุ้นกลุ่มสร้างบ้านได้แรงหนุนหลังจากดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านที่พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 7 ปี โดยหุ้นโทลส์ บราเธอร์ส พุ่งขึ้น 2.4% และหุ้นเคมี โฮม ดีดขึ้น 1.7%
หุ้นโบอิ้ง ปรับตัวขึ้น 1.2% หลังจากมีรายงานว่าโบอิ้งได้รับยอดสั่งซื้อเครื่องบินโบอิ้ง 787 ดรีมไลเนอร์ส จำนวน 10 ลำ ในงาน Paris Air Show ซึ่งจัดขึ้นที่ประเทศฝรั่งเศส
ส่วนหุ้นล็อคฮีด มาร์ติน ซึ่งเป็นผู้ผลิตเครื่องบินรบ F-35 ปรับตัวขึ้น 0.5% หลังจากสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (S&P) ปรับเพิ่มแนวโน้มความน่าเชื่อถือของล็อคฮีท มาร์ตินขึ้นสู่ระดับ มีเสถียรภาพ จากเดิมที่ระดับ เชิงลบ
นักลงทุนจับตาดูกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนพ.ค.ในวันนี้เวลา 19.30 น.ตามเวลาไทย ซึ่งมีการคาดการณ์ว่าดัชนี CPI ทั่วไปจะเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนพ.ค. และคาดว่าดัชนี CPI พื้นฐานซึ่งไม่รวมราคาในหมวดอาหารและพลังงาน จะเพิ่มขึ้น 0.2%