(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้าแกว่งตัวกรอบแคบรอผลประชุมเฟด 18-19 มิ.ย.

ด้านสถานการณ์ภายในประเทศ ควรติดตามความเคลื่อนไหวทางการเมือง แต่อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่ได้มีผลกระทบมากนัก

ส่วนตลาดภูมิภาคเช้านี้ออกมาในเชิงลบเล็กน้อย

พร้อมให้กรอบแกว่งไว้ที่ แนวรับ 1,450 จุด และแนวต้าน 1,480 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :

• ตลาดหุ้นนิวยอร์ควานนี้(17 มิ.ย.)ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 15,179.85 จุด เพิ่มขึ้น 109.67 จุด(+0.73%) ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 1,639.04 จุด เพิ่มขึ้น 12.31 จุด(+0.76%) และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 3,452.13 จุด เพิ่มขึ้น 28.58 จุด(+0.83%)
• ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลีย ลดลง 2.20 จุด หรือ -0.05%, ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 17.97 จุด หรือ -0.14%, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 4.62 จุด หรือ +0.25%, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 1.92 จุด หรือ +0.02%, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 2.59 จุด หรือ -0.15%, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 14.56 จุด หรือ +0.46%, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 123.30 จุด หรือ -0.58%
• ตลาดหุ้นไทยปิดวานนี้(17 มิ.ย.)ที่ 1,471.04 จุด เพิ่มขึ้น 5.77 จุด(+0.39%)
• นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 489.25 ล้านบาท เมื่อ 17 มิ.ย.56
• ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการวานนี้(17 มิ.ย.)ที่ 97.77 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 8 เซนต์
• ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดวานนี้(17 มิ.ย.)ที่ 7.9 เหรียญฯ/บาร์เรล
• เงินบาทเปิดตลาดที่ระดับ 30.68/70 คาดแกว่งแคบ-รอผลประชุมเฟด
• ธปท.เกาะติดผลประชุมเฟด มั่นใจรับมือได้ แม้ถอนคิวอีเร็วกว่ากำหนด ชี้ทุนสำรองมากพอรับเงินทุนไหลออก เตือนธุรกิจรับสถานการณ์ตลาดผันผวน ขณะค่าเงินบาทอ่อนค่าตามเงินเอเชีย รอผลประชุมเฟด คาดมีแผนปรับลดคิวอี
• ไทย-พม่าลงนามเอสพีวีเดินหน้าโครงการทวาย เดินหน้า 5 โครงการแรก ในระยะ 5 ปีวงเงิน 1.4 พันล้านดอลล์ เตรียมออกประกาศเชิญชวนนักลงทุนภายใน 2 เดือน เชื่อคัดเลือกผู้ร่วมทุนโปร่งใส "นิวัฒน์ธำรง" มั่นใจญี่ปุ่นเข้าร่วมในโครงการแน่ ชี้โครงการทวายฯเฉพาะโครงสร้างพื้นฐานมีมูลค่ากว่า 3-4 แสนล้านดอลล์กระตุ้นเศรษฐกิจภูมิภาค
• สหพัฒน์รับปัจจัยเสี่ยงรุมเร้า"ชะลอลงทุน"ทั้ง"เลิกผลิต-ลดขนาดธุรกิจ"ชี้บาทแข็งกระทบส่งออก ออร์เดอร์หาย ยึดนโยบาย "ใส่เกียร์สโลว์" ย้ำปีนี้ธุรกิจลำบาก กำลังซื้อหด ประเมินยอดโต 3-4% ต่ำสุดรอบ10 ปี
• ปปง.ชี้เงินนอกระบบเข้าข่ายฟอกเงินพุ่งเกิน 1 ล้านล้าน ระบุการพนันสูงสุด ส่วนคดีเศรษฐกิจ มุ่งเน้นการตบแต่งบัญชี โดยตั้งผู้สอบบัญชี-คณะกรรมการ ที่มีชื่อเสียงได้รับการยอมรับจากสังคม เป็นเกราะป้องกัน เผยเตรียมเรียก"ไพร้ซวอเตอร์เฮ้าส์" แจงกรณีแคลิฟอร์เนีย ว้าว ไซฟ่อนเงิน พร้อมตรวจสอบข้อมูลการซื้อขายหุ้นย้อนหลัง หวังเชื่อมโยงเส้นทางการเงิน
• ตลาดทุนเผย"ต่างชาติ"ห่วงนโยบายเศรษฐกิจ หวั่นการเมืองแทรกแบงก์ชาติและองค์กรอิสระ ชี้ขาดทุนจำนำข้าว-แถลงตัวเลขส่งออกผิด กระทบความเชื่อมั่น ชี้หนี้สาธารณะคือความเสี่ยงระยะกลาง-ยาว หากรัฐขาดวินัยการคลัง เงินทุนพร้อมไหลออกเร็วและแรง
• สำนักงานประกันสังคมเปิดเผยผลการดำเนินงานของกองทุนประกันสังคมในงวด6 เดือนแรกของปี 2555 ว่า กองทุนประกันสังคมมีผลตอบแทนจากการลงทุน 2.11 หมื่นล้านบาทประกอบด้วย ดอกเบี้ยรับจากเงินฝาก พันธบัตรและหุ้นกู้ 1.59 หมื่นล้านบาท รายได้จากเงินปันผลและกำไรจากการขายหลักทรัพย์อีก 5,200 ล้านบาท

*หุ้นเด่นวันนี้

• PTTGC(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)“ซื้อเก็งกำไร"เป้า 81 บาท เชื่อกลุ่มพลังงาน-ปิโตรฯสามารถซื้อเก็งกำไรในช่วงสั้นจากราคาน้ำมันดิบ NYMEX ทรงตัวสูงกว่า US$95.00/barrel และมีแนวโน้มไต่ขึ้นทดสอบ US$100.00/barrel สัปดาห์นี้ ขณะที่ผลประกอบการ 2Q56 จะโตสูง yoy คาดกำไรสุทธิเบื้องต้นที่ 7,000 ล้านบาท โต +722% yoy จาก 2Q55 และบริษัทอยู่ระหว่างศึกษาแผนขยายกำลังผลิตแครกเกอร์และโพลีเมอร์ร่วมกับ PTT รวมทั้งลงทุนโครงการปิโตรฯแบบครบวงจรในอินโดนีเซียร่วมกับ Pertamina ส่วนราคาหุ้นมี Valuation ค่อนข้างต่ำ
• CENTEL(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)"ซื้อเก็งกำไร"เป้า 45.20 บาท ปัจจัยบวกระยะสั้นเป็น 1 ใน 3 หุ้นที่เพิ่มเข้าสู่การคำนวณดัชนี SET50 ส่งผลให้กองทุนที่ลงทุนอ้างอิงดัชนี SET50 ต้องปรับพอร์ตลงทุนให้สอดคล้องภายในวันที่ 28 มิ.ย.และมองบวกต่ออุตฯท่องเที่ยวทิศทางเติบโตแข็งแกร่งจากแรงหนุนของนักท่องเที่ยวเอเซีย ขณะที่แผนการจัดตั้งกองทุน REIT อยู่ระหว่างศึกษาจะช่วยเสริมให้ฐานะการเงินแข็งแกร่งขึ้น พร้อมคาดกำไรปกติปี 56 โต +38.6% yoy เป็น 1,557 ล้านบาท
• CK(เกียรตินาคิน)"ซื้อ"เป้า 34.50 บาท นอกจากจะมีปัจจัยหนุนจากการถูกนำเข้าคำนวณในดัชนี SET50 รอบนี้แล้ว ล่าสุดยืนยันนำหุ้น CKP เข้าตลาดหุ้นตามแผนเดิม นอกจากนี้แนวโน้มผลงาน Q2/56 ยังคงโดดเด่น จากการบันทึกกำไรขายหุ้น BECL จำนวน 952 ล้านหุ้นราว 850-875 ล้านบาท และกำไรการ Mark-to-Market หลังลดสัดส่วนการถือลงมาอยู่ที่ 16% อีกราว 1.5-1.8 พันล้านบาท
• MCOT(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"เป้า 56 บาท เป็น 1 ใน 4 รายที่ กสทช.ให้ใบอนุญาตเป็นผู้ให้บริการโครงข่ายโทรทัศน์ระบบดิจิตอล(ผู้ได้ใบอนุญาตอีก 3 รายคือช่อง 5, ช่อง 11 และ Thai PBS)เป็นข่าวบวกที่ยังไม่ได้รวมในประมาณการเพราะยังอยู่ในขั้นตอนเสนอราคา แต่ไม่กระทบกำไรปีนี้เพราะจะรับรู้รายได้อย่างเร็วปี 2014 ประเมินเบื้องต้นคาดเพิ่มกำไรในปี 2014 ได้ 34-76 ล้านบาท หรือ 2-3% ของคาดการณ์กำไรเดิม และเพิ่มมูลค่าหุ้นได้ 1-2 บาท
• BECL(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซ์อ"เป้า 50 บาท กทพ.เห็นชอบปรับขึ้นค่าทางด่วนขึ้น 5 — 10 บาท เป็น 50/75/110 บาท(สำหรับรถ 4 ล้อ, 6-10 ล้อ และมากกว่า 10 ล้อตามลำดับ)ตามที่คาด คาดอัตราค่าผ่านทางใหม่เริ่มใช้ 1 ก.ย.นี้ ส่วนแนวโน้มกำไรสุทธิ 2Q13 ยังคงโตแกร่ง Y-Y ทั้งจากปริมาณการใช้ทางด่วนที่เพิ่มขึ้น การรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจาก TTW เต็มไตรมาส และกำไรพิเศษจากการขาย IPO หุ้น CKP