TPAC-W1 เปิดเทรดวันแรกที่ 2.14 บาท ขณะที่เมื่อเวลา 9.57 น.หุ้น TPAC เปิดตลาดที่ 5.95 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
บล.ทิสโก้ ระบุในบทวิเคราะห์ฯประเมินมูลค่าเหมาะสมของใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญ บมจ.พลาสติค และหีบห่อไทย(TPAC)ใช้ชื่อย่อ TPAC-W1 จากราคาหุ้นแม่ที่ 5.95 บาท(17 มิ.ย.)ประเมินมูลค่า TPAC-W1 ได้ที่ 1.96 บาท/หน่วย คิดเป็น All-in Premium 16.9% แต่หากใช้มูลค่าเหมาะสมหุ้นแม่ 9.25 บาท จะได้มูลค่าเหมาะสม TPAC-W1 ที่ 4.42 บาท พร้อมให้กรอบมูลค่าเหมาะสมไว้ที่ 1.57-2.58 บาท เมื่อราคาหุ้นแม่ TPAC เคลื่อนไหวในกรอบ 5.35-6.85 บาท
ทั้งนี้ คาดว่า All-in Premium จะอยู่ที่ 16.9% เนื่องจากอายุใบสำคัญแสดงสิทธิที่ยาวพอสมควร 3 ปี และคาดการณ์แนวโน้มอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลที่ต่ำลงเหลือ 2% อีกทั้งผลกระทบจากการใช้สิทธิแปลงสภาพไม่มาก (Dilution Effect) เพียง 20%
อนึ่ง ต้นทุนของผู้ถือ TPAC-W1 อยู่ที่ 1.9 บาท/หน่วย ซึ่งมาจากส่วนต่างราคาก่อนและหลังวันขึ้นเครื่องหมาย XW หลังปรับหุ้นปันผล 1 : 1 แล้วคูณด้วย 2 เนื่องจากเป็นการให้สิทธิ 2 : 1 [ (9.35-8.4) * 2 ]
TPAC ประกอบธุรกิจหลักในการรับจ้างผลิตบรรจุภัณฑ์ทำจากพลาสติก ประเภทขวดและฝา และชิ้นส่วนพลาสติกในรูปแบบต่างๆ ตามความต้องการใช้งานของลูกค้าในแต่ละอุตสาหกรรม โดยใช้กระบวนการผลิตหลัก 3 ประเภท คือ กระบวนการผลิตแบบฉีด (Injection Moulding), กระบวนการผลิตแบบเป่า(Blow Moulding) และกระบวนการผลิตแบบ PET (Injection—Blow Moulding) ภายใต้ระบบคุณภาพมาตรฐานสากล ISO 9001:2008 และ GMP ที่ได้การรับรองจากสถาบัน AJA (Anglo Japanese American Registrars)
ลูกค้าของ TPAC ได้แก่ Nestle Japan and Vietnam, F&N Food และ UNILEVER Best Foods เป็นต้น ในด้านราคาหุ้นของ TPAC นั้นซื้อที่ PER เพียง 11.35 เท่า แต่มีสภาพคล่องซื้อขายต่ำ เฉลี่ยเพียงวันละ 2-3 ล้านบาท มองรายได้ของ TPAC จะเติมโตตามการบริโภคของคนที่เพิ่มขึ้น เพราะเป็นบรรจุภัณฑ์ของสินค้าอุปโภคบริโภค แต่มีความเสี่ยงจากต้นทุนของวัตถุดิบจำพวก HDPE, PET, PP ซึ่งผันผวนตามราคาน้ำมันและค่าเงิน ตลาดประเมินมูลค่าเหมาะสม TPAC ที่ 9.25 บาท (CONSENSUS)
TPAC-W1 จำนวนที่ออก 49.99 ล้านหน่วย จัดสรรแก่ผู้ถือหุ้นเดิมในอัตราส่วน 2 : 1 ฟรี โดยมีอัตราใช้สิทธิ 1 : 1 @ 5 บาท, อายุ 3 ปี กำหนดให้ใช้สิทธิได้ทุกวันทำการสุดท้ายของเดือน มี.ค. และ ก.ย. (ใช้สิทธิครั้งแรกวันที่ 30 ก.ย. 56 และใช้สิทธิครั้งสุดท้ายวันที่ 20 พ.ค. 59 ซึ่งเป็นวันหมดอายุ)