สำหรับ พันธบัตรรัฐบาล รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุดในวันนี้คือ พันธบัตรรุ่น LB155A LB176A และ LB15DA (รุ่นอายุ 1.9 ปี 4.0 ปี และ 2.5 ปี ตามลำดับ) โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 6,825 ล้านบาท หรือคิดเป็น 56% ของมูลค่าการซื้อขายพันธบัตรรัฐบาลทั้งหมด ทางด้าน หุ้นกู้เอกชน รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรกในวันนี้ คือ หุ้นกู้ของ
1. บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (PTTC13OB) มูลค่า 326 ล้านบาท
2. บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (PTTC13OA) มูลค่า 204 ล้านบาท
3. บริษัท โตโยต้า ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด (TLT149A) มูลค่า 173 ล้านบาท
โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 702 ล้านบาท หรือคิดเป็น 43% ของมูลค่าการซื้อขายหุ้นกู้เอกชนทั้งหมดในวันนี้
ทางด้านประเภทของนักลงทุน ที่มียอดซื้อสุทธิ สูงที่สุดเป็น 2 อันดับแรกในวันนี้ คือ
1. กลุ่มบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ซื้อสุทธิ 21,945 ล้านบาท
2. กลุ่มสถาบันการเงินที่ไม่มีใบอนุญาตค้าตราสารหนี้ ซื้อสุทธิ 6,600 ล้านบาท
ในขณะที่นักลงทุนต่างชาติ มียอดซื้อสุทธิ มูลค่า 1,346 ล้านบาท
Yield Curve ปรับตัวลดลงในพันธบัตรระยะสั้น อายุไม่เกิน 1 ปี ประมาณ 1 - 2 bp และปรับเพิ่มขึ้นในตราสารอายุ 1 ปีขึ้นไป ประมาณ 1 — 4 bp ปริมาณการซื้อขายส่วนใหญ่กระจุกตัวอยู่ในพันธบัตร ธปท. ระยะสั้นที่ประมูลวันนี้ และจากการปรับพอร์ตเพื่อเตรียมเข้าประมูล Benchmark Bond อายุ 5 ปีวันพรุ่งนี้ โดยตลาดยังคงรอความชัดเจนจากการประชุม FOMC ในวันที่ 18 — 19 มิ.ย. 2556 สำหรับนักลงทุนต่างชาติมีการเข้าซื้อพันธบัตรระยะยาว หรือมียอดซื้อสุทธิเท่ากับ 1,346 ล้านบาท