ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดพุ่ง 138.38 จุด จากคาดการณ์เฟดไม่ลดซื้อบอนด์

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday June 19, 2013 06:20 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (18 มิ.ย.) ขณะที่นักลงทุนจับตาดูผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งนักลงทุนมีความมั่นใจว่าเฟดจะยังไม่ลดขนาดโครงการซื้อพันธบัตรในเร็วๆนี้

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์พุ่งขึ้น 138.38 จุด หรือ 0.91% แตะที่ 15,318.23 จุด ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 12.77 จุด หรือ 0.78% ปิดที่ 1,651.81 จุด และดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 30.05 จุด หรือ 0.87% ปิดที่ 3,482.18 จุด

ตลาดหุ้นนิวยอร์กทะยานขึ้นแข็งแกร่งติดต่อกันเป็นวันที่ 2 เนื่องจากนักลงทุนเริ่มมีความเชื่อมั่นมากขึ้นว่า คณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟดจะยังไม่ตัดสินใจลดขนาดโครงการซื้อพันธบัตรในเร็วๆนี้ เมื่อพิจารณาจากข้อมูลเศรษฐกิจที่ยังไม่แข็งแกร่งมากนัก

ทั้งนี้ เฟดมีกำหนดจะออกแถลงการณ์ผลการประชุมนโยบายการเงินในพุธที่ 19 มิ.ย.ตามเวลาสหรัฐ จากนั้นนายเบน เบอร์นันเก้ ประธานเฟดจะแถลงมุมมองเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐและเปิดเผยตัวเลขคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐในปีนี้ไปจนถึงปี 2558

ในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับแรงกดดันหลังจากเบอร์นันเก้ ประธานเฟดได้ส่งสัญญาณเมื่อวันที่ 22 พ.ค.ที่ผ่านมาว่า การลดขนาดโครงการซื้อสินทรัพย์ อาจจะมีขึ้นในการประชุมในอีกไม่กี่ครั้งข้างหน้า หากตลาดแรงงานของสหรัฐฟื้นตัวขึ้น

หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัล รายงานก่อนหน้านี้ว่า มีสัญญาณบ่งชี้ว่าเบอร์นันเก้อาจจะสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนว่า แม้ว่าท้ายที่สุดแล้วเฟดตัดสินใจลดขนาดโครงการซื้อพันธบัตร แต่ก็จะไม่ดำเนินการควบคู่ไปกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

นอกเหนือจากความเชื่อมั่นว่าเฟดจะไม่ลดขนาดโครงการซื้อพันธบัตรแล้ว ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐเมื่อคืนนี้ด้วย โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านปรับตัวขึ้นในเดือนพ.ค. เพราะได้รับแรงผลักดันจากจำนวนที่อยู่อาศัยสำหรับหลายครอบครัวที่เพิ่มขึ้น ในขณะที่ตัวเลขการอนุญาตก่อสร้างหดตัวลงเล็กน้อย

รายงานของกระทรวงระบุว่า ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านในสหรัฐปรับตัวขึ้น 6.8% จากเดือนเม.ย.ในเดือนพ.ค. แตะที่ 914,000 ยูนิตและเพิ่มขึ้น 28.6% จากปีก่อน

ด้านกระทรวงแรงงานสหรัฐเผยดัชนี CPI เพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือนพ.ค. ต่ำกว่าตัวเลขประมาณการณ์ของนักวิเคราะห์ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.2%

หุ้นสมิธฟิลด์ ซึ่งเป็นบริษัทแปรรูปเนื้อสุกรรายใหญ่ระดับโลก ปรับตัวลง 0.15%

หุ้นเจนเนอรัล อิเล็กทริก พุ่งขึ้น 1.7% หุ้นแบล็คเบอร์รี่ ปรับตัวขึ้น 3.8%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ