บริษัทแบ่งเป็นงบลงทุนในปีนี้ 1,000 ล้านบาท และในอีกสองปีข้างหน้า (57-58) จำนวน 1,100 ล้านบาท ในการพัฒนาเทคโนโลยีและซอฟต์แวร์ เพื่ออกอากาศช่องรายการในระบบไฮเดฟินิชัน(HD)เพิ่มเป็น 48 ช่อง ภายใน 3 เดือนหรือเดือน ก.ย.56 และจะเพิ่มเป็น 50 ช่องภายในต้นปีหน้า ซึ่งจะเป็นการรอัพเกรดช่องรายการปกติเป็นช่องรายการ HD ครอบคลุมทุกประเภทรายการจากทั่วโลกทั้งกีฬา ภาพยนตร์ สารคดี รายการเด็ก เช่น BBC, CNN, Cartoon Network, Life Time, Life Inspired และ ASN
พร้อมกันนี้ ทรูวิชั่นส์ได้นำเสนอแพ็กเกจใหม่ คือ ซุปเปอร์ แฟมิลี่ แพ็กเกจ ในราคา 899 บาท/เดือน ที่มีมากกว่า 140 ช่อง รวมช่องรายการไฮเดฟินิชัน 32 ช่อง ที่รวมรายการบันเทิง ภาพยนตร์ และกีฬา อีกทั้งเตรียมเพิ่มช่องรายการใหม่อีก 6 เดือนข้างหน้านี้ เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านคอนเทนต์ โดยยึดกลยุทธ์ 3 แกนหลักในการเข้าถึงลูกค้า คือ เทคโนโลยีและนวัตกรรม คอนเทนต์ และบริการ ซึ่งทำให้สามารถครองความเป็นผู้นำของธุรกิจนี้ในระยะยาว
"ทรูวิชั่นส์ มั่นใจว่าแผนการลงทุนด้านเทคโนโลยีและซอฟต์แวร์ในครั้งนี้จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งด้านช่องรายการในระบบไฮเดฟินิชันที่ดีที่สุด และมากที่สุดในไทย ทำให้ทรูวิชั่นส์ยังครองความเป็นผู้ให้บริการเพย์ทีวีที่ล้ำหน้าที่สุดในเมืองไทย สำหรับผู้ชมที่เคยดูช่องรายการในระบบ HD มาแล้ว หากจะให้กลับไปดูช่องรายการในระบบปกติก็จะรู้สึกว่าไม่ได้อรรถรสเต็มที่อีกต่อไป ดังนั้น ช่องรายการระบบ HD จึงถือว่าเป็นส่วนสำคัญของประสบการณ์การรับชมโทรทัศน์ และกลายเป็นวิถีของการดูโทรทัศน์ในอนาคตไปแล้ว จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเราถึงได้ตัดสินใจลงทุนมหาศาลในด้านนี้"นายอาณัติ กล่าว
กรรมการผู้จัดการ ทรูวิชั่นส์ กรุ๊ป กล่าวว่า ทรูวิชั่นส์ ตั้งเป้ามีสมาชิกใหม่เพิ่มขึ้น 30% จากปัจจุบันมีสมาชิกรวม 3 ล้านครัวเรือนทั่วประเทศ โดยคาดหวังว่ากลุ่มลูกค้าระดับกลางจะเติบโต 20-30% และจะเน้นขยายฐานลูกค้าระดับล่างให้เติบโตถึง 60-70% โดยขณะนี้ได้เปลี่ยนกล่องเคเบิ้ลให้เป็น HD ของสมาชิกในกรุงเทพฯและปริมณฑลเกือบทั้งหมดแล้ว และคาดว่าจะทยอยเปลี่ยนกล่องให้แล้วเสร็จทั้งหมดได้ภายใน 2 เดือน