ภายหลังจากที่ผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด)ออกมาในคงอัตราดอกเบี้ยไว้เท่าเดิม และประธานเฟดยังออกมากล่าวว่า คงจะต้องมีการชะลอการซื้อสินทรัพย์ในปีนี้ และอาจจะยุติมาตราการกระตุ้นเศรษฐกิจ(QE)ในปีหน้า หากเศรษฐกิจของสหรัฐฯมีการฟื้นตัวขึ้นอย่างที่คาดไว้ ดังนั้นจึงส่งผลให้ตลาดในเอเชียคงจะมีการปรับฐานอีกรอบ
สำหรับปัจจัยที่จะต้องติดตามดูต่อไป เป็นเรื่องการปรับการคาดการณ์กำไรของบรรดานักวิเคราะห์ฯที่น่าจะออกมาในเดือนหน้า, การปรับเป้าหมายดัชนี SET ของโบรกฯต่าง ๆ, จับตาความเคลื่อนไหว Fund Flow และสถานการณ์การเมือง
ทั้งนี้ หากดัชนี SET หลุดแนว 1,420 จุด ก็ให้รอซื้อที่ระดับ 1,350 จุดหรือต่ำกว่านี้ ส่วนแนวต้านคงไม่ต้องดูแล้วในตอนนี้
ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :
- ตลาดหุ้นนิวยอร์ควานนี้(19 มิ.ย.)ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 15,112.19 จุด ลดลง 206.04 จุด(-1.35%) ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 1,628.93 จุด ลดลง 22.88 จุด(-1.39%) และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 3,443.20 จุด ลดลง 38.98 จุด(-1.12%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ ลดลง 143.37 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ ลดลง 318.09 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ ลดลง 55.03 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ ลดลง 23.94 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ ลดลง 27.19 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ ลดลง 8.71 จุด และดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียเปิดวันนี้ ลดลง 16.80 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดวานนี้(19 มิ.ย.)ที่ 1,437.70 จุด เพิ่มขึ้น 10.28 จุด(+0.72%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,219.82 ล้านบาท เมื่อ 19 มิ.ย.56
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการวานนี้(19 มิ.ย.)ที่ 98.24 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 0.20 ดอลลาร์
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดวานนี้(19 มิ.ย.)ที่ 7.5 เหรียญฯ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 31.03/05 อ่อนค่ามากจากวานนี้ หลังประธานเฟดส่งสัญญาณชะลอ QE
- ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานการให้บริการเช็คเรียกเก็บในระบบสิ้นเดือน พ.ค. พบว่า เช็คเรียกเก็บผ่านศูนย์เรียกเก็บเงินมีทั้งสิ้น 6.51 ล้านฉบับ มูลค่า 3.55 ล้านล้านบาท จากเดือนก่อนมีมูลค่า 3.41 ล้านล้านบาท
- คลังเผยผลการบริหารจัดการหนี้ภาครัฐเดือนพ.ค. กู้เงินชดเชยขาดดุลโดยการออกพันธบัตรรัฐบาล 19,000 ล้านบาทพันธบัตรออมทรัพย์ 1,468 ล้านบาท ชำระหนี้ 17,450 ล้านบาท ด้านการปรับโครงสร้างหนี้ในประเทศ 23,709 ล้านบาท ปรับโครงสร้างหนี้ต่างประเทศ 11,892.55 ล้านเยน
- นายสมชัย สัจจพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า ฐานะการคลังภาคสาธารณะซึ่งรวมทั้งรัฐบาล องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและรัฐวิสาหกิจ ตามระบบสถิติเพื่อการศึกษาวิเคราะห์นโยบายการคลัง : สศค.หรือ GFS ในช่วงครึ่งแรกของปีงบประมาณ 2556 ขาดดุลรวมทั้งสิ้น 2.29 แสนล้านบาท จำนวนขาดดุลต่ำกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว 8.01 หมื่นล้านบาทหรือ 25.90%
- นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลเศรษฐกิจที่บ่งชี้ถึงความจำเป็นต้องปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงไปมากกว่าปัจจุบันที่อยู่ในระดับ 2.5% เนื่องจากเศรษฐกิจไทยกำลังเผชิญกับภาวะเงินทุนไหลออก
*หุ้นเด่นวันนี้
- NOK บมจ.สายการบินนกแอร์’เข้าเทรดวันนี้วันแรก, บล.ฟินันเซีย ไซรัส ประเมินมูลค่าเหมาะสม 44 บาทอิง PE 20 เท่า ที่ราคา IPO 26 บาท คิดเป็น PE เพียง 11.7 เท่าปีนี้และ 9.1 เท่าปีหน้า คาดกำไรสุทธิปี 2013-14 จะยังโตแข็งแกร่ง 174% และ 29% เป็น 1,385 ล้านบาท และ 1,784 ล้านบาท ตามลำดับ (สูงกว่าภูมิภาคที่โตเฉลี่ย 12%) จากการเพิ่มฝูงบินจาก 14 ลำปีก่อนเป็น 16 ลำปีนี้และ 23 ลำปีหน้า และเปลี่ยนฝูงบินไอพ่นทั้งหมดให้เป็น Boeing 737-800 จากเดิม Boeing 737-400 ซึ่งมีประสิทธิภาพการใช้น้ำมันดีกว่าและจำนวนที่นั่งมากกว่า
- COLOR-W1 ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญบมจ.สาลี่ คัลเล่อร์ (COLOR)เข้าเทรดวันนี้วันแรก ในตลาด mai มีจำนวน 48,416,270 หน่วย โดยมีอัตราการใช้สิทธิ 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิ : 1 หุ้นสามัญใหม่ ราคาการใช้สิทธิ 4.00 บาทต่อหุ้น
- MODERN (เกียรตินาคิน)"ซื้อ"เป้า 14.30 บาท เป็นผู้นำในตลาดเฟอร์นิเจอร์ทั้งกลุ่มสำนักงานและที่อยู่อาศัย การวางตำแหน่งทางธุรกิจที่ชัดเจนต่างจากคู่แข่งโดยเน้นงานโครงการและสินค้าพรีเมี่ยม ทำให้ยอดขายเติบโตต่อเนื่อง อีกทั้งยังมีโอกาสเติบโตจากตลาดเฟอร์นิเจอร์โรงพยาบาลที่กำลังขยายตัวเพิ่ม เราคาดว่ากำไรสุทธิของ MODERN ในอีก 3 ปีข้างหน้าจะมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยสูงถึง 20% ทำให้บริษัทมีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง มีการจ่ายปันผลสม่ำเสมอในผลตอบแทนไม่ต่ำกว่า 6% ต่อปี ราคาหุ้นปัจจุบันให้อัตราผลตอบแทนรวม 45%
- EGCO (เกียรตินาคิน)"ซื้อ"เป้า 175 บาท ปัจจัยหนุนราคาหุ้นระยะสั้นอยู่ที่โอกาสจะชนะการประมูลโครงการโรงไฟฟ้า IPP ในครั้งนี้ เนื่องจากพื้นที่ที่ใช้เข้าประมูลอยู่ในพื้นที่ของโรงไฟฟ้าระยอง (REGCO) ซึ่งถ้าชนะจะช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับราคาหุ้นราว 17 บาท (คาดประกาศภายใน มิ.ย. 56) เราประเมินกำไรปกติในปี 2556 ไว้ที่ 6,823 ล้านบาท (+6% YoY) ซึ่งเป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของกำลังการผลิตไฟฟ้า โดยเฉพาะจากกลุ่มธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ และการเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นในโรงไฟฟ้าเคซอน
- KK(KK)“ทยอยสะสม"เป้า 78 บาท รายงานสินเชื่อ พ.ค. เติบโต +0.9% mom และ 5M56 เติบโต +7.1% Ytd ยังมีทิศทางขยายตัวต่อเนื่อง และเรายังคงเป้าหมายการเติบโตของสินเชื่อปี 2556 ไว้ที่ระดับ 12% และคาดว่ากำไรสุทธิ 2Q56 จะทำระดับสูงสุดใหม่ +64% yoy และ +16% qoq เป็น 1.35 พันล้านบาท จากแรงหนุนของธุรกิจตลาดทุนผ่าน PHATRA และการรับรู้รายได้ค่าธรรมเนียมการขายกองทุน BTSGIF 200 ล้านบาท ในไตรมาสนี้ รวมทั้งเป็นหุ้นที่ให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลในเกณฑ์ดี โดยคาดการณ์เงินปีผลปี 2556 หุ้นละ 2.75 บาท คิดเป็นผลตอบแทนจากเงินปันผล 5.3%