ขณะที่ดัชนี SET ปิดช่วงเช้าที่ 1,394.35 จุด ลดลง 43.35 จุด (-3.02%)
บล.เกียรตินาคิน ระบุในบทวิเคราะห์ฯประเมินมูลค่าเหมาะสมหุ้นบมจ.สายการบินนกแอร์(NOK) ด้วยวิธี Theoretical PER ที่ 17.5 เท่า (ใกล้เคียงกับ AAV ที่ 17.9 เท่า) ได้มูลค่าที่เหมาะสมของ NOK ที่ 33 บาท มี Upside จากราคา IPO ประมาณ 27%
ในปีนี้คาดว่า NOK จะมีกำไรสุทธิ 1,178 ล้านบาท เติบโต 136% YoY ส่วน EPS คาดว่าจะเติบโต 87% YoY และยังคงมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องในช่วง 3 ปีข้างหน้า จากการปรับเปลี่ยนรุ่นของเครื่องบินและเพิ่มขนาดของฝูงบิน ซึ่งจะทำให้อายุเฉลี่ยของเครื่องบินลดลง ประโยชน์ที่ NOK จะได้รับคือ ชั่วโมงการบินเฉลี่ยต่อวันที่เพิ่มขึ้น 51% เป็น 10.3 ชั่วโมง, ต้นทุนเชื้อเพลิงต่อที่นั่งลดลง, อัตราการใช้เครื่องบินสูงขึ้น เมื่อเทียบกับเครื่องบินที่มีอายุเฉลี่ยมาก ซึ่งจะต้องมีการจอดซ่อมแซมเป็นระยะ และค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงที่ลดลง
แนวโน้มผลประกอบการในช่วง 3 ปีข้างหน้า (ปี 2556 — 58) ยังมีแนวโน้มเติบโต 10.6% p.a. (CAGR) การเติบโตของผลประกอบการเป็นผลมาจาก การปรับรุ่นของเครื่องบินเพื่อให้สอดคล้องกับแผนขยายเส้นทางการบินของ NOK นอกจากนี้เราคาดว่า NOK จะมีอัตราการใช้เครื่องบิน (Utilization Rate) เพิ่มขึ้น จากการเพิ่มจำนวนเครื่องบินใหม่ ทำให้อายุเฉลี่ยฝูงบินลดลง ลดจำนวนชั่วโมงบินที่เสียไปกับการหยุดซ่อมเครื่องเก่ารวมทั้งค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมที่ลดลง นอกจากนี้การขยายขนาดฝูงบินจะทำให้จำนวนที่นั่งรวมเพิ่มขึ้น อีกด้านหนึ่งยังสามารถลดต้นทุนในการดำเนินงาน โดยเฉพาะต้นทุนเชื้อเพลิงจากประสิทธิภาพเครื่องบินที่ดีกว่า การเพิ่มจำนวนเครื่องบินยังทำให้อายุเฉลี่ยของเครื่องบินลดลง