สำหรับ พันธบัตรรัฐบาล รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุดในวันนี้คือ พันธบัตรรุ่น LB176A, LB155A และ LB137A (รุ่นอายุ 4.0 ปี, 1.9 ปี และ 0.1 ปี ตามลำดับ) โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 17,507 ล้านบาท หรือคิดเป็น 82% ของมูลค่าการซื้อขายพันธบัตรรัฐบาลทั้งหมด ทางด้าน หุ้นกู้เอกชน รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรกในวันนี้ คือ
1. หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ และไม่มีประกันของบริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) (LH137A) มูลค่า 562.5 ล้านบาท
2. หุ้นกู้บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) (CPF185A) มูลค่า 321.9 ล้านบาท
3. หุ้นกู้บ้านปู (BANPU195A) มูลค่า 155.4 ล้านบาท
โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 1,039.7 ล้านบาท หรือคิดเป็น 53.5% ของมูลค่าการซื้อขายหุ้นกู้เอกชนทั้งหมดในวันนี้
ทางด้านประเภทของนักลงทุน ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงที่สุดเป็น 2 อันดับแรกในวันนี้ คือ
1. กลุ่มบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 5,259 ล้านบาท
2. กลุ่มสถาบันการเงินที่ไม่มีใบอนุญาตเพื่อค้าตราสารหนี้ มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 1,633 ล้านบาท
ในขณะที่นักลงทุนต่างชาติ มียอดขายสุทธิ เท่ากับ -2,444 ล้านบาท ผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 3 เดือน ปิดที่ 2.54% ปรับตัวลดลงจากเมื่อวาน -0.01% และผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 5 ปี ปิดที่ 3.36% ไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากเมื่อวาน
Yield Curve ปรับตัวลดลงในทุกช่วงอายุตราสาร ประมาณ 1-4 bps. ระหว่างวัน Yield ค่อนข้างผันผวนโดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล รุ่นอายุ 5 ปี ที่ประมูลวันนี้ ปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงเช้าก่อนที่จะปรับตัวลดลงในช่วงบ่าย ด้านนักลงทุนยังคงจับตา ผลประชุม FOMC คืนนี้ ซึ่งตลาดคาดการณ์ว่า Fed จะยังคงดอกเบี้ยฯ และมาตรการ QE3 ไว้ที่ระดับเดิม แต่อาจจะมีการลดขนาด QE3 ในการประชุมครั้งต่อไป สำหรับนักลงทุนต่างชาติมีแรงขายพันธบัตรระยะยาว ยอดขายสุทธิ (NET SELL) เท่ากับ 2,444 ล้านบาท