ดัชนี FTSE 100 ปิดวันทำการล่าสุดที่ 6,159.51 จุด ลดลง 189.31 จุด หรือ 2.98%
ตลาดหุ้นลอนดอนร่วงลงอย่างหนักหลังจากเบอร์นันเก้ได้ออกมาส่งสัญญาณในระหว่างการแถลงข่าวเมื่อวันพุธที่ผ่านมาว่า เฟดจะเริ่มชะลอโครงการซื้อพันธบัตร หรือมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในปลายปีนี้ หากเศรษฐกิจฟื้นตัวตามที่คาดการณ์ไว้
เบอร์นันเก้กล่าวว่า หากข้อมูลเศรษฐกิจที่เฟดจะได้รับในวันข้างหน้านั้นบ่งชี้ว่า เศรษฐกิจฟื้นตัวตามที่คาดการณ์ไว้ ก็เป็นเรื่องเหมาะสมที่เฟดจะชะลอโครงการซื้อพันธบัตร หรือชะลอกการทำ QE ภายในปีนี้ และหากข้อมูลเศรษฐกิจยังคงออกมาสอดคล้องกับที่คาดการณ์ไว้ เฟดก็จะยังคงลดขนาดวงเงินซื้อพันธบัตรไปจนถึงช่วงครึ่งแรกของปีหน้า และจะสิ้นสุดโครงการซื้อพันธบัตรประมาณกลางปีหน้า
ทั้งนี้ เบอร์นันเก้ได้ส่งสัญญาณในด้านลบต่อตลาด แม้ว่าคณะกรรมการเฟดได้ออกแถลงการณ์ย้ำว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำเป็นพิเศษต่อไป และจะยังคงเดินหน้าโครงการซื้อสินทรัพย์ในวงเงินปัจจุบันที่ 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือน เพื่อกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจก็ตาม
ด้านเอชเอสบีซี โฮลดิงส์เผย ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเบื้องต้นของจีนในเดือนมิ.ย.ลดลงแตะ 48.3 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 9 เดือน
หุ้นกลุ่มเมืองแร่นำโดยแรนด์โกลด์ รีซอร์สเซส และริโอ ทินโต ต่างก็ลดลงไม่ต่กว่า 3% ในขณะที่หุ้นอาร์ม โฮลดิ้งส์ ลดลง 4% หลังจากที่บริษัทเอ็นวิเดีย คอร์ป ของสหรัฐ มีแผนจะออกใบอนุญาตเทคโนโลยีให้กับผู้ผลิตโปรเซสเซอร์รายอื่น
หุ้นแอชทีด กรุ๊ป เพิ่มขึ้น 2.8% หลังเผยผลประกอบการที่สูงกว่าการประเมินของนักวิเคราะห์ และประกาศจ่ายเงินปันผลเพิ่ม