(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีแกว่งลงหลังบอนด์ยีลด์สหรัฐทำนิวไฮคาดต่างชาติดึงเงินกลับต่อ

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday June 24, 2013 09:43 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้จะแกว่งตัวลงต่อจากสัปดาห์ก่อน ถึงแม้ว่าตลาดหุ้นสหรัฐในวันศุกร์ที่ผ่านมาจะปิดอยู่ในแดนบวก แต่ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐปรับตัวขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ในรอบ 2 ปี แสดงให้เห็นถึงการดึงเงินกลับของนักลงทุนต่างชาติยังไม่จบในเวลานี้ ส่งผลให้มองแนวโน้มเช้านี้จะแกว่งตัวลงต่อ

ส่วนภาวะตลาดภูมิภาคเช้านี้ ส่วนใหญ่อยู่ในแดนลบ ยกเว้นตลาดหุ้นอินโดนิเซียที่ปรับตัวอยู่ในแดนบวกได้

พร้อมให้กรอบแกว่งตัวของดัชนีวันนี้ไว้ที่แนวรับแรก 1,385 จุด หากหลุดแนวรับนี้จะมีแนวรับที่ 1,355-1,360 จุด และแนวต้าน 1,420-1,430 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์คล่าสุด(21 มิ.ย.)ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 14,799.40 จุด เพิ่มขึ้น 41.08 จุด(+0.28%) ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 1,592.43 จุด เพิ่มขึ้น 4.24 จุด(+0.2%) และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 3,357.25 จุด ลดลง 7.39 จุด(-2.22%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 187.41 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 4.24 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 239.87 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 4.86 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 1.61 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 20.17 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ ลดลง 1.23 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 0.09 จุด และดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลีย ลดลง 10.50 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(21 มิ.ย.)ที่ 1,400.50 จุด ลดลง 1.69 จุด(-0.12%)
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 3,484.80 ล้านบาท เมื่อ 21 มิ.ย.56
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ส.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(21 มิ.ย.)ที่ 93.69 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 1.45 ดอลลาร์
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(21 มิ.ย.)ที่ 9.4 เหรียญฯ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิดตลาดที่ระดับ 31.06/15 เคลื่อนไหวตามภูมิภาค
  • ภาคธุรกิจรับศึกหนักครึ่งปีหลัง"ปัจจัยลบ"ฉุดกำลังซื้อหดตัว ผลพวง"รถคันแรกหนี้ครัวเรือนพุ่ง"ชะลอการใช้จ่าย"ค้าปลีก-รถยนต์-อสังหาฯ-ไอที-คอนซูเมอร์"ปรับแผนธุรกิจ-เป้าหมายเติบโต ประเมินตัวเลขการบริโภควูบ"แสนล้าน"กระทบจีดีพี 0.5-1% ค่ายรถ ระบุปัญหายอดจองเกินจริงปีก่อนส่งผล"เพิ่มผลิต-สต็อกล้น"ขณะที่ยอดจองใหม่ซบ อัดแคมเปญเร่งระบาย ด้าน"ไอที"ยอดร่วง 10-20%
  • นายแบงก์ชี้ค่าเงินบาทในช่วงที่เหลือของปีผันผวนสูง จากความไม่แน่นอนเศรษฐกิจสหรัฐที่ส่งผลต่อคิวอี เตือนผู้ส่งออก-นำเข้ารีบประกันความเสี่ยง อย่าประมาทและเก็งกำไรค่าเงิน ขณะธปท.เร่งดันแผนแม่บทแก้ปัญหาทุนเคลื่อนย้ายภายในปีนี้ เพื่อสร้างความสมดุลเงินเข้า-ออก
  • ธนาคารกลางอังกฤษ(บีโออี)กับธนาคารกลางจีน (พีบีโอซี) บรรลุข้อตกลงด้านการสวอปแลกเปลี่ยนค่าเงินปอนด์และหยวนระหว่างกันโดยตรงเมื่อเกิดภาวะฉุกเฉินทางการเงินขึ้น ซึ่งจะช่วยให้ทั้งสองฝ่ายสามารถเข้าถึงสกุลเงินของแต่ละฝ่ายได้โดยตรง พร้อมกับกำหนดมูลค่าการแลกเปลี่ยนไม่เกิน 2 แสนล้านหยวน (ราว 1 ล้านล้านบาท)
  • เครดิตบูโรส่งสัญญาณเตือนอีกครั้ง พบกลุ่มที่มีหนี้ต่ำกว่า 1 แสนบาท มีรายได้ต่ำกว่า 15,000 บาทต่อเดือน มีการหยุดชำระหนี้เกิน 90 วันมีความเสี่ยงเป็นหนี้สูญมากสุด สำรวจพบจำนวนคนที่เป็นหนี้บัตรเครดิต- สินเชื่อส่วนบุคคลรวมกันสูงถึง 67% จากยอด 24 ล้านบัญชี มีเอ็นพีแอลรวมกันเกินกว่า 1 หมื่นล้านบาท ณ สิ้นพ.ค.ที่ผ่านมา ระบุการได้รับรู้ข้อมูลก่อนจะทำให้มีมาตรการป้องกันได้ เพื่อไม่ให้เกิดขึ้นอีก

*หุ้นเด่นวันนี้

  • KMC-W3 ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญบมจ.กฤษดามหานคร(KMC)เข้าเทรดวันแรก จำนวน 2,624,546,758 หน่วย อัตราการใช้สิทธิ 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิ : 1 หุ้นสามัญใหม่ ราคาการใช้สิทธิ 0.60 บาทต่อหุ้น อายุใบสำคัญแสดงสิทธิ 3 ปี นับแต่วันออกใบสำคัญแสดงสิทธิคือ วันที่ 20 พฤษภาคม 2556 และครบกำหนดคือวันที่ 19 พฤษภาคม 2559)ราคาใบสำคัญแสดงสิทธิ 0.00 บาทต่อหน่วย กำหนดวันใช้สิทธิครั้งแรก 30 ธ.ค. 2556 และใช้สิทธิครั้งสุดท้าย 19 พ.ค. 2559
  • BCP(โกลเบล็ก)"ซื้อ"เป้า 51 บาท คาดกำไรสุทธิ 2Q56 จะยังขยายตัวอยู่ในเกณฑ์ดี โดยมีปัจจัยหนุนจากการเพิ่มขึ้นของ Crude Run และรับรู้รายได้จากเงินเคลมประกันภัยจากเหตุไฟไหม้โรงกลั่นในส่วนที่เหลืออีกประมาณ 800-1,500 ล้านบาท ส่วนทั้งปีเรายังคงประมาณการณ์กำไรสุทธิในปีนี้ตามเดิมโดยคาดกำไรสุทธิประมาณ 5,200 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 22%yoy
  • BAY (ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"เป้า 40 บาท ข่าวจาก Wall Street Journal ระบุ MUFG ใกล้บรรลุข้อตกลงซื้อ BAY 51% ที่ 40 บาท คิดเป็น 2.15 เท่าของ Book value ทั้งนี้ การซื้อธนาคารพาณิชย์ต้องได้รับการอนุมัติจากธปท.และก.การคลัง ข่าวนี้อาจกระตุ้นการเก็งกำไรระยะสั้น
  • CK (เกียรตินาคิน)"ซื้อ"เป้า 34.50 บาท สัปดาห์นี้มีประเด็นเก็งกำไรเข้าคำนวณในดัชนี SET50 รอบใหม่ 1 ก.ค.56 และความชัดเจนการนำ CKP เข้าตลาดหุ้น กำหนดขายหุ้น 26-28 มิ.ย.ราคา 12-15 บาท แม้ว่า CK จะไม่ได้นำหุ้นที่ถืออยู่มาขายในครั้งนี้ แต่จะได้รับปัจจัยบวกจากมูลค่าเพิ่มจากการเข้าตลาดฯของ CKP นอกจากนี้แนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/56 ยังโดดเด่น จากการบันทึกกำไรจากการขายและ Mark-to-Market หุ้น BMCL เข้ามาราว 2.3-2.5 พันล้านบาท
  • KCE (เกียรตินาคิน)"ซื้อ"เป้า 16.70 บาท จากการอ่อนค่าของค่าเงินบาทล่าสุดแตะ 31.1 บาท/ดอลลาร์สหรัฐแล้ว ทำให้ใน 2Q56 คาดว่าเงินบาทเฉลี่ยจะอ่อนค่าราว 1% จาก 29.6 บาทใน 1Q56 เบื้องต้นประเมินจะส่งผลให้กำไรปกติของ KCE เพิ่มขึ้นจากประมาณการปัจจุบันราว 6% ขณะที่แนวโน้มผลการดำเนินงานใน 2Q56 โดดเด่นต่อเนื่อง โดยคาดว่าจะมีกำไรปกติราว 175 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14% QoQ และพลิกกลับมาจากขาดทุน 1 ล้านบาทใน 2Q55
  • CPALL(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)"ซื้อ"เป้า 48 บาท การรวมงบการเงินของ MAKRO คาดเริ่ม 3Q56 ขณะที่ผลการดำเนินงานปกติมีแนวโน้มเติบโตในเกณฑ์ดี ยังมองบวกต่อศักยภาพเติบโตต่อเนื่องในระยะยาว อย่างไรก็ดี มีความเสี่ยงจากการบันทึกค่าใช้จ่ายในการซื้อกิจการ และขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนหลังจากบาทอ่อน 8% จากวันที่ทำสัญญาซื้อขายหุ้น MAKRO เนื่องจากการกู้เงินในสกุลเงินดอลลาร์ โดยผลขาดทุนฯยังไม่เกิดขึ้นจริงไม่กระทบต่อกระแสเงินสด แต่คาดว่าราคาหุ้นจะถูกกดดันจากปัจจัยดังกล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ