ทั้งนี้ GUNKUL มีสัดส่วนการถือหุ้นใน บริษัท กันกุล ชุบุ พาวเวอร์เจน อยู่ที่ 51% และ บริษัท ชูบุ อีเล็คทริค พาวเวอร์ เจ็ม บี.วี มีสัดส่วนการถือหุ้นอยู่ที่ 41%
โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ทั้ง 6 สัญญา ประกอบด้วย โครงการโรงไฟฟ้าบ้านกล้วย 1 จ.เพชรบูรณ์ กำลังการผลิตขนาด 4.4 เมกะวัตต์ และโครงการโรงไฟฟ้าบ้านกล้วย 2 จ.เพชรบูรณ์ กำลังการผลิตขนาด 3.0 เมกะวัตต์ ดำเนินการผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าในเชิงพาณิชย์ให้กับ กฟภ. ตั้งแต่เดือน ม.ค.และเดือน ต.ค.54 ตามลำดับ
ส่วนโครงการโรงไฟฟ้าวิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์ กำลังการผลิตขนาด 8.0 เมกะวัตต์ ,โครงการโรงไฟฟ้าบึงสามพัน จ.เพชรบูรณ์ กำลังการผลิตขนาด 3.0 เมกะวัตต์ ,โครงการโรงไฟฟ้าเนินปอ จ.พิจิตร กำลังการผลิตขนาด 4.5 เมกะวัตต์ ได้ดำเนินการจำหน่ายไฟฟ้าในเชิงพาณิชย์ได้ทั้งหมดแล้วตั้งแต่เดือน มี.ค.และ โครงการโรงไฟฟ้าศรีจุฬา จ.นครนายก กำลังการผลิตขนาด 8.0 เมกะวัตต์ เริ่มดำเนินการจ่ายไฟฟ้าในเดือน มิ.ย.เป็นต้นไป และจะทยอยรับรู้รายได้เข้ามาในปีนี้ โดยได้รับการสนับสนุนค่า Adder ในอัตรา 8 บาทต่อหน่วย
นอกจากนี้ บริษัทได้ลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมในประเทศไทย ที่ ต.ห้วยบง อ.ด่านขุนทด จ.นครราชศรีมา กำลังการผลิตขนาด 60 เมกะวัตน์ มูลค่าโครงการประมาณ 4,500 ล้านบาท ใช้ที่ดินทั้งหมด 2,111 ไร่ และมีกังหันลมทั้งหมด 30 ต้นคาดว่าจะดำเนินการก่อสร้างได้ในไตรมาส 3/56 และจะแล้วเสร็จปลายปี 57 จ่ายไฟฟ้าให้กับ กฟภ.ได้ในไตรมาส 1/58
นายสมบูรณ์ กล่าวว่า บริษัทอยู่ระหว่างศึกษาโครงการลงทุนในพม่าเกี่ยวกับสาธารณูปโภค โดยเป็นความร่วมมือกับบริษัทท้องถิ่นในพม่า คาดว่าน่าจะได้ข้อสรุปหลังวันที่ 12 ส.ค.นี้ พร้อมทั้งจะเข้าร่วมประมูลโครงการก่อสร้างพลังงานแสงอาทิตย์เพิ่มเติม ขณะนี้บริษัทมีงานในมือ (backlog) อยู่ที่ประมาณ 1,200 ล้านบาท และคาดว่าสิ้นปีนี้จะเพิ่มขึ้นเป็น 1,600 ล้านบาท จะผลักดันรายได้ปีนี้เติบโตได้ตามเป้าไม่ต่ำกว่า 10%