(เพิ่มเติม) “แม็คกรุ๊ป"เดินหน้าขาย IPO คาดเข้าเทรด 4 ก.ค.,ผถห.เดิมยัน Lock up 6 เดือน

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday June 25, 2013 14:25 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

น.ส.สุณี เสรีภาณุ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.แม็คกรุ๊ป (MC) เปิดเผยว่า บริษัทฯ เดินหน้าเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) โดยมีบล.ธนชาต และบล. กสิกรไทย เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายร่วม พร้อมด้วย บล.ทิสโก้ และบล.ซีไอเอ็มบี ในฐานะผู้ร่วมจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่าย โดยเปิดให้ประชาชนทั่วไปและนักลงทุนจองซื้อหุ้นได้ที่ราคา 15.00 บาท ระหว่างวันที่ 26-28 มิ.ย.56 และคาดว่าจะสามารถเข้าทำการซื้อขายเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้ในวันที่ 4 ก.ค.56 ในกลุ่มพาณิชย์

อย่างไรก็ดี คาดว่าเม็ดเงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้นไอพีโอนั้น บริษัทฯ จะนำเงินไปใช้ในการขยายช่องทางการจัดจำหน่ายประมาณ 500 ล้านบาท ใช้เพื่อพัฒนาคุณภาพของผลิตภัณฑ์ประมาณ 200 ล้านบาท ใช้ในการจัดทำคลังสินค้าประมาณ 100 ล้านบาท ใช้สำหรับการพัฒนาระบบไอทีเพื่อให้การจัดการให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นอีกประมาณ 385 ล้านบาท และอีกส่วนหนึ่งจะนำไปใช้ในการชำระคืนหนี้ประมาณ 750 ล้านบาท ที่เหลือคาดว่าจะนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนและใช้เพื่อการลงทุนต่อไปในอนาคต

"ที่เหลือคาดว่าจะนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนและใช้เพื่อการลงทุนต่อไปในอนาคต เช่น การเข้าไป TAKE OVER ในธุรกิจประเภทเดียวกัน อย่างไรก็ตามทางบริษัทฯไม่มีแผนสร้างโรงงานเพิ่ม แต่จะเน้นการเช่าโรงงานเป็นหลัก เนื่องจากการเช่าโรงงานจะสามารถลดกำลังการผลิตเมื่อไหร่ก็ได้"นางสาวสุณี กล่าว

ปัจจุบัน บริษัทมีทุนจดทะเบียน 400 ล้านบาท และทุนจดทะเบียนชำระแล้ว 300 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญ 600 ล้านหุ้น และหลังการเสนอขายหุ้นไอพีโอทำให้บริษัทฯ มีทุนชำระแล้ว 400 ล้านบาท หรือ 800 ล้านหุ้น และบริษัทฯ มีนโยบายปันผลไม่ต่ำกว่า 50% ของกำไรสุทธิ

นางปรารถนา มงคลกุล ประธานกรรมการบริหาร แม็คกรุ๊ป กล่าว่า บริษัทฯ ตั้งเป้าสิ้นปีจะมีจุดจำหน่ายทั้งหมด 574 จุด จากไตรมาส 1/56 อยู่ที่ 530 จุดแล้ว และคาดว่าภายใน 3 ปีจะมีจุดจำหน่ายภายในประเทศเพิ่มอีก 260 จุด ซึ่งปัจจุบันจุดจำหน่ายของบริษัทส่วนใหญ่อยู่ในต่างจังหวัด 72% และกรุงเทพฯ 28% ส่วนต่างประเทศจะเน้นในรูปแบบการเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้า ซึ่งขณะนี้บริษัทมีตัวแทนจำหน่ายที่พม่า 6 แห่ง และ ลาว 1 แห่ง พร้อมทั้งอยู่ระหว่างการเจรจาหาตัวแทนจำหน่ายในอินโดนีเซียและมาเลเซียเพิ่ม คาดว่าสิ้นปีนี้จะได้ข้อสรุปชัดเจน

ในปีนี้บริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโตไม่ต่ำกว่า 20% สัดส่วนรายได้มาจากแม็คยีนส์ 78% แม็คเลดี้ 18% และไบสัน เสื้อผ้าผู้ชาย 3% และจะรักษาอัตรากำไรสุทธิที่ 24-25% เนื่องจากบริษัทสามารถควบคุมต้นทุนการผลิตและจัดระบบการผลิตให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมถึงกำลังการผลิตมีการผลิตได้เพิ่มขึ้นและมีจุดจำหน่ายที่เพิ่มขึ้น ส่วนปี 57 คาดว่ารายได้จะเติบโตต่อเนื่อง จากการวางตลาดสินค้าใหม่ เช่น แม็คพิ้งก์ แม็คบลูบราเทอร์ แม็คมี แม็คมินิ ซึ่งภายในสิ้นปีนี้จะมีการเปิดตัวแม็คอีก 1 แบรนด์ด้วย

ด้าน น.ส.สุวภา เจริญยิ่ง กรรมการผู้จัดการ บล.ธนชาต ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน (FA) และผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายหุ้น MC เปิดเผยว่า การเสนอขายหุ้นไอพีโอของแม็คกรุ๊ปนั้นเดิมได้กำหนดช่วงราคาการสำรวจความต้องการของนักลงทุนสถาบัน (บุ้คบิ้ว) ที่ 15-18 บาท แต่เราตัดสินใจร่วมกับบริษัทที่จะกำหนดราคาบุ้คบิ้วจากนักลงทุนสถาบันที่ราคาเดียว 15.00 บาท ซึ่งถือว่าเป็นราคาที่เหมาะสม คิดเป็น P/E ที่ค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับ P/E กลุ่มที่ค่อนข้างสูง โดยมีอัตราส่วนราคาหุ้นต่อกำไรต่อหุ้นเฉลี่ยสุทธิของบริษัท (P/E เฉลี่ย) ที่ 13 เท่า หรือคิดเป็นอัตราส่วนราคาหุ้นต่อกำไรต่อหุ้นปรับลดสุทธิของบริษัท (P/E Fully diluted) ที่ 15 เท่า ในขณะที่ P/E กลุ่มอยู่ที่ 30-33 เท่า

ทั้งนี้ ถือได้ว่าบริษัทฯ ได้รับผลตอบรับที่ดีจากการบุ้คบิ้ว โดยมียอดจองจากนักลงทุนสถาบันมากกว่า 2.5 เท่า จากสภาวะตลาดที่ค่อนข้างผันผวนอยู่ในขณะนี้ ถือว่ายอดจองดังกล่าวอยู่ในเกณฑ์ดี เนื่องจากบริษัทฯ มีฐานลูกค้าอยู่ทั่วประเทศ และมีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง ฐานะทางการเงินที่ดี อีกทั้งแนวโน้มในการเติบโตต่อไปในอนาคตที่จะขยายสาขาให้ครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ รวมถึงการขยายตัวไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ประกอบกับการเปิดตัวสินค้าต่างๆ ภายใต้กลุ่มแม็คกรุ๊ป ซึ่งจะส่งผลให้บริษัทฯ มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง"

น.ส.สุวภา กล่าวต่อว่า ในส่วนของผู้ถือหุ้นเดิมของ MC เองมีความตั้งใจและเต็มใจโดยประกาศไม่ขายหุ้นทั้ง 100% โดยติดล็อคอัพ (Lock up) เป็นระยะเวลา 6 เดือนหลังจากวันที่หุ้น MC เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ คาดว่าจะสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนและได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ประกอบกับหุ้น MC เป็นหุ้นพื้นฐานดี น่าลงทุน เหมาะสำหรับลงทุนระยะปานกลาง — ยาว จึงอาจถือได้ว่าเป็นหุ้นไอพีโอน้องใหม่อีกตัวหนึ่งที่น่าจับตามมอง

อนึ่ง MC เสนอขายหุ้นไอพีโอจำนวน 200,000,000 หุ้น หรือคิดเป็น 25 % ของจำนวนหุ้นที่เรียกชำระแล้วทั้งหมดภายหลังการเสนอขายในครั้งนี้ และจะจัดสรรให้กับนักลงทุนทั่วไป 45 % และนักลงทุนสถาบัน 55 % มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) 0.50 บาทต่อหุ้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ