ทั้งนี้บริษัทจะทำการเสนอขายหุ้น IPO จำนวน 110 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.25 บาท คิดเป็นสัดส่วนประมาณร้อยละ 20 ของทุนจดทะเบียนและนำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai)
“ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาผลการดำเนินงานของ AUCT มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเป็นผลจากการรุกตลาด ขยายช่องทางการประมูล รวมทั้งเพิ่มสินค้าให้มีความหลากหลาย ส่งผลให้บริษัทสามารถเข้าถึงลูกค้ากลุ่มต่างๆทั่วประเทศได้มากขึ้น อย่างไรก็ตามบริษัทมีแผนที่จะพัฒนาและขยายธุรกิจออกไปอย่างต่อเนื่อง โดยมีเป้าหมายที่จะรักษาความเป็นผู้นำในธุรกิจประมูล และเป็นที่ยอมรับในกลุ่มประเทศอาเซียนรองรับการเปิด AEC ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต"นายเอกพิทยา กล่าว
นายวรชาติ ทวยเจริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟินเน็กซ์แอ๊ดไวเซอรี่ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน คาดว่าจะกำหนดราคาเสนอขายหุ้น IPO ได้ในเดือน ส.ค.และเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ mai ในไตรมาส 3/56
"การกำหนดราคาคงต้องดูความเหมาะสมของตลาดรวมด้วย ซึ่งช่วง ส.ค.ความผันผวนช่วงสั้นจากปัจจัยต่างประเทศคงไม่มีแล้ว ทุกอย่างน่าจะชัดเจนขึ้น ตลาดไม่น่าตกไปกว่านี้แล้ว แต่ต้องดูค่า PE ตลาด mai อาจปรับลง แต่การที่เราเสนอขายนักลงทุนรายย่อยส่วนใหญ่ ปัจจัยต่างประเทศไม่น่าจะกระทบเพราะนักลงทุนรายย่อยหวังผลตอบแทนจากมูลค่าหุ้น การสร้างผลกำไรของบริษัท ซึ่งเงินที่ได้จากการระดมทุนจะนำไปพัฒนาพื้นที่ใกล้พื้นที่เดิม (สำนักงานใหญ่) ราว 14 ไร่ และเป็นเงินทุนหมุนเวียนซึ่งเข้ามาก็สามารถ generate รายได้ได้ทันที"นายวรชาติ กล่าว
การระดมทุนครั้งนี้ AUCT จะนำเงินไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนสำหรับการดำเนินงานภายในบริษัท เพื่อขยายธุรกิจให้มีการเติบโตต่อเนื่องในอนาคต อีกทั้งบริษัทจะได้รับผลประโยชน์อื่นๆ จากการเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ อาทิ ความคล่องตัวในการจัดหาแหล่งเงินทุน และส่งเสริมภาพพจน์ที่ดีให้กับบริษัท ให้การดำเนินธุรกิจมีความคล่องตัวมากขึ้น
สำหรับโครงสร้างผู้ถือหุ้นของบริษัท มีครอบครัวศิลา เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัท ในสัดส่วนร้อยละ 69 ซึ่งภายหลังจากการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชน สัดส่วนจะลดลงเหลือร้อยละ 55.20 โดยบริษัทมีนโยบายจ่ายเงินปันผล ในอัตราไม่ต่ำกว่า 40% ของกำไรสุทธิ ปัจจุบันบริษัทมีรายได้จากค่าบริการจากการขายและการให้บริการ จาก 3 กลุ่ม ได้แก่ รายได้จากการประมูลสินค้า รายได้ค่าบริการอื่น และรายได้จากการขาย โดยรายได้จากการประมูลสินค้าถือเป็นรายได้หลักในการประกอบธุรกิจของบริษัท โดยมีสัดส่วนร้อยละ 88-91
ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานในช่วงที่ผ่านมาของบริษัทมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องโดยมีรายได้รวมปี 2555 ที่ 352.26 ล้านบาท กำไรสุทธิ 30.5 ล้านบาท เติบโตจากปี 2554 ที่มีรายได้รวม 245.76 ล้านบาทและมีกำไรสุทธิ 23.7 ล้านบาท ขณะที่ผลประกอบการงวดไตรมาส 1/56 มีรายได้รวม 99.03 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 8.41 ล้านบาท
และในปี 56 บริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโต 10-20% โดยไตรมาส 1/56 เติบโต 20% แล้ว พร้อมทั้งเชื่อว่ารายได้และกำไรจะเติบโตต่อเนื่อง
นายประสิทธิ์ ศรีสุวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บล.คันทรี่ กรุ๊ป (CGS) ในฐานะผู้จัดการการจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุน เปิดเผยว่าหุ้น AUCT เป็นธุรกิจที่มีความโดดเด่น และมีศักยภาพในการแข่งขันสูง เป็นผู้นำในการประกอบธุรกิจให้บริการจัดการประมูล มีบริการประมูลที่หลากหลาย ทั้งรถยนต์ รถจักรยานยนต์ สินค้าอื่นๆตามความต้องการของลูกค้า อาทิ บ้านและที่ดิน หุ้น เฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า สินค้าแบรนด์เนม
“AUCT" เป็นธุรกิจที่มีความโดดเด่นมีกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจรอบด้าน ให้ความสำคัญกับคุณภาพและมาตรฐานการบริการ สร้างความสัมพันธ์อันดีกับลูกค้า รวมทั้งกลุ่มสถาบันการเงิน และกลุ่มผู้ค้ารถยนต์ ซึ่งเป็นพันธมิตรหลักทางธุรกิจ ประกอบกับบริษัทมีสถานที่จัดการประมูลที่ครอบคลุมทั่วทุกภูมิภาคในประเทศไทยมีระบบการประมูลผ่านทางออนไลน์ เข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้อย่างทั่วถึง จึงมีความเชื่อมั่นว่าการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai)จะเป็นอีกก้าวสำคัญที่จะสร้างการเติบโตทางธุรกิจให้กับบริษัทได้เป็นอย่างดี รวมทั้งคงจะสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องด้วยเช่นกัน"นายประสิทธิ์กล่าว