ตลาดหุ้นสหรัฐพุ่งแรง รับข้อมูลเศรษฐกิจสดใส,ตลาดคลายกังวลสภาพคล่องจีน

ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์พุ่งขึ้น 107.34 จุด หรือ 0.73% แตะที่ 14,766.90 จุด ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 14.88 จุด หรือ 0.95% แตะที่ 1,587.97 จุด และดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 33.66 จุด หรือ 1.01% แตะที่ระดับ 3,354.42 จุด

นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะสภาพคล่องตึงตัวของจีน หลังจากนายหลิง เถา รองผู้อำนวยการธนาคารกลางจีนสาขาเซี่ยงไฮ้ เปิดเผยว่า จีนจะกำกับดูแลให้อัตราดอกเบี้ยในตลาดเงินอยู่ในระดับที่เหมาะสม และระบุว่าปัจจัยที่ผลักดันอัตราดอกเบี้ยให้สูงขึ้นนั้น จะค่อยๆหมดไป นอกจากนี้ นายหลิงกล่าวว่า ธนาคารกลางจีนสามาถควบคุมความเสี่ยงด้านสภาพคล่องและจะติดตามอัตราดอกเบี้ยอย่างใกล้ชิด

นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนพ.ค. พุ่งขึ้น 3.6% มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 3% เนื่องจากความต้องการสินค้าประเภทต่างๆปรับตัวสูงขึ้น ตั้งแต่เครื่องบินพาณิชย์ไปจนถึงเครื่องจักร ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจของสหรัฐเริ่มฟื้นตัวขึ้น ขณะที่สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์/เคส ชิลเลอร์ เปิดเผยว่า ดัชนีราคาบ้านใน 20 เมืองใหญ่ในเดือนเม.ย. พุ่งขึ้น 1.7% เมื่อเทียบกับเดือนมี.ค. มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาด่ว่าจะเพิ่มขึ้น 1.2% บ่งชี้ว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ของสหรัฐยังคงฟื้นตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง และกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดขายบ้านใหม่เดือนพ.ค. พุ่งขึ้น 2.1% แตะระดับ 476,000 ยูนิต/ปี ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบเกือบ 5 ปี หรือนับตั้งแต่เดือนก.ค. ปี 2551 และมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่ายอดขายบ้านจะเพิ่มขึ้นแตะระดับ 462,000 ยูนิต/ปี

หุ้นเจพีมอร์แกน ปรับตัวขึ้น 1.5% ขณะที่หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา ดีดตัวขึ้น 1.7% และหุ้นซิตี้กรุ๊ปปรับตัวขึ้น 2.6%

หุ้นวาเลโร ซึ่งเป็นบริษัทกลั่นน้ำมันของสหรัฐ พุ่งขึ้น 2.5% หลังจากโกลด์แมน แซคส์ ปรับเพิ่มน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นดังกล่าว ส่วนหุ้นเลนนาร์ คอร์ป บริษัทรับสร้างบ้านรายใหญ่อันดับ 3 ของสหรัฐ พุ่งขึ้น 4.3% หลังจากบริษัทเปิดเผยยอดขายในไตรมาส 2 มูลค่า 1.43 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 1.31 พันล้านดอลลาร์