นายวิชา พลูวรลักษณ์ ประธานกรรมการบริหาร MAJOR เปิดเผยว่า บริษัทคาดรายได้ปีนี้จะเติบโต 25-30% เพิ่มขึ้นจากเป้าหมายเดิมที่ตั้งไว้ที่เติบโต 15-20% เนื่องจากในช่วงครึ่งปีแรกบริษัทมีรายได้เพิ่มจากหนังที่ทำรายได้เกิน 200 ล้านบาทถึง 3 เรื่อง ได้แก่ พี่มากพระโขนง, Iron man 3 และ Fast and Furious 6
ทั้งนี้ ในไตรมาส 2/56 คาดว่าทั้งรายได้และกำไรจะดีกว่าไตรมาสเดียวกันของปีก่อนซึ่งเติบโตเป็น 2 digit แต่ยังไม่แน่ใจว่าจะเป็นไตรมาสที่ดีที่สุดของปีหรือไม่ เพราะในไตรมาส 4/56 ยังมีหนังฟอร์มยักษ์ และหนังทำเงินอีกหลายเรื่อง เช่น ต้มยำกุ้ง พระนเรศวรภาคจบ หนังจากค่าย GTH และจาก M39 อีก 2-3 เรื่อง
นอกจากนี้ คาดว่าสิ้นปีนี้จอภาพยนตร์จะเพิ่มเป็นมากกว่า 500 จอ จากปัจจุบันมี 435 จอ โดยเพิ่มจากห้างเซ็นทรัลเชียงใหม่ เซ็นทรัลหาดใหญ่ เทสโก้โลตัสอีก 5-6 จุด ห้างโรบินสันสกลนคร
ในปีนี้ ค่าคั๋วหนังเฉลี่ยอยู่ที่ 140 บาท/ใบ หลังช่วงต้นปีปรับขึ้นแล้วประมาณ 3% ตามอัตราเงินเฟ้อ
ขณะเดียวกัน MAJOR มองหาลู่ทางเข้าลงทุนโรงหนังในเมียนมาร์ ซึ่งอาจจะเห็นในปีนี้ รวมทั้งมองการขยายธุรกิจในเวียดนามด้วย ส่วนในกัมพูชาได้เข้าไปลงทุนแล้ว 7-8 โรงที่จะเริ่มรับรู้รายได้ในปีหน้า ซึ่งเป็นการขยายแบบค่อยเป็นค่อยไป ขณะที่บริษัทเน้นธุรกิจโบว์ลิ่ง อย่างไรก็ตาม ฐานธุรกิจใหญ่ของ MAJOR อยู่ในไทย ส่วนรายได้จากต่างประเทศมีไม่ถึงสัดส่วน 5% ของรายได้รวมในปีนี้