(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้าปรับขึ้นต่อแนวเดียวกับภูมิภาค หลังคลายกังวลจีน

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday June 26, 2013 09:52 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.เอเซียพลัส กล่าวว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะปรับตัวขึ้นต่อตามตลาดภูมิภาค จากที่วานนี้ดัชนีรีบาวด์แรงในช่วงท้ายของตลาด จากการที่นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับภาวะสภาพคล่องตึงตัวของจีน เมื่อทางการจีนได้มีการออกมาประกาศว่ามีความพร้อมที่จะมีการอัดฉีดเงินเข้าระบบ แต่อย่างไรก็ตาม มองว่ายังมีแนวต้านอยู่ที่ 1,400 จุด และแนวโน้มตลาดยังมีความผันผวนค่อนข้างมาก

สำหรับตลาดหุ้นภูมิภาคเช้านี้ ดีดตัวกลับขึ้นมาอยู่ในแดนบวกเป็นส่วนใหญ่

พร้อมให้กรอบแกว่งตัวของดัชนีตลาดหุ้นไทยวันนี้ไว้ที่ แนวรับ 1,360 จุด และแนวต้าน 1,400 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์ควานนี้(25 มิ.ย.)ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 14,760.31 จุด เพิ่มขึ้น 100.75 จุด(+0.69%) ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 1,588.03 จุด เพิ่มขึ้น 14.94 จุด(+0.95%) และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 3,347.89 จุด เพิ่มขึ้น 27.13 จุด(+0.82%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 183.41 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 5.04 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 235.04 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 126.11 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 19.11 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 15.90 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ เพิ่มขึ้น 22.83 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 1.04 จุด และดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลีย เพิ่มขึ้น 11.80 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดวานนี้(25 มิ.ย.)ที่ 1,384.63 จุด เพิ่มขึ้น 20.54 จุด(+1.51%)
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 2,138.79 ล้านบาท เมื่อ 25 มิ.ย.56
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ส.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการวานนี้(25 มิ.ย.)ที่ 95.32 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 14 เซนต์
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดวานนี้(25 มิ.ย.)ที่ 9.4 เหรียญฯ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิดตลาดที่ระดับ 31.01/05 อ่อนค่าเล็กน้อย
  • ศาลปกครองพิจารณาครั้งแรกคดีที่สมาคมต้านโลกร้อนขอให้เพิกถอนแผนบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้าน ตุลาการผู้แถลงคดี เสนอความเห็นองค์คณะจัดทำแผนชอบด้วยกฎหมาย ไม่จำเป็นต้องทำประชามติ แต่ควรสั่งรัฐให้เอกชนจัดรับฟังความคิดเห็นประชาชนผู้มีส่วนได้เสียตามมาตรา 67 แต่ละโมดูลก่อนทำสัญญาด้าน "ศรีสุวรรณ" พอใจ ลุ้นคำพิพากษา 27 มิ.ย. เชื่อกระบวนการรับฟังความเห็นประชาชนใช้เวลาไม่น้อยกว่า 2 ปี รัฐบาลสั่งทีมกฎหมายรวบรวมเอกสารส่งศาลก่อนตัดสิน
  • ธนาคารกลางจีนยันสามารถควบคุมความเสี่ยงด้านสภาพคล่องในตลาดเงินได้ นักเศรษฐศาสตร์ชมผู้นำใหม่แดนมังกรยอมเสี่ยงเจ็บปวดระยะสั้น หวังคุมการลงทุนที่สร้างปัญหาระยะยาว ขณะตลาดหุ้นจีน-เอเชียผันผวน ฟื้นตัวจากข่าวการแก้ปัญหาของจีนและเจ้าหน้าที่เฟดยันเดินหน้าคิวอี
  • ธปท.เตรียมรับสถานการณ์เศรษฐกิจจีนชะลอตัว ถก กนง.10 ก.ค.นี้ ยันไทยไม่มีปัญหาสภาพคล่อง แม้ทุนไหลออก มั่นใจไม่กระทบเศรษฐกิจ เผยเข้าซื้อพันธบัตรรุ่นอายุ 5 ปี กับ 9 ปี หลังผลยีลด์พุ่ง ขณะต่างชาติยังขายสุทธิต่อเนื่อง ด้านกสิกรเชื่อบาทผันผวนถึงสิ้นปี แนะผู้ประกอบการใช้ออปชั่นป้องกันความเสี่ยงเหมาะกว่าการซื้อล่วงหน้า
  • อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติวงเงินรอบสองอีก 7,500 ล้านบาทเพื่อช่วยเหลือเอสเอ็มอีผ่านธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (เอสเอ็มอีแบงก์) อัตราดอกเบี้ยพิเศษ ในการปรับปรุงเครื่องจักรและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าให้สูงขึ้น แต่ละรายกู้ได้ไม่เกิน 5 ล้านบาท
  • มหาวิทยาลัยหอการค้า สำรวจสถานภาพหนี้ภาคครัวเรือนปี 2556 พบว่าน่าเป็นห่วง เนื่องจากจำนวนหนี้เฉลี่ยอยู่ที่ 1.88 แสนบาทต่อครัวเรือน ขยายตัว 12%สูงสุดในรอบ 5 ปี สะท้อนให้เห็นว่า ภาวะเศรษฐกิจเริ่มส่งสัญญาณชะลอตัว หนี้ดังกล่าวยังแยกเป็นหนี้ในระบบ 50.4% ลดลงจาก 53.6% ในปีก่อนหน้า แต่หนี้นอกระบบเพิ่มจาก 46.4% ในปีก่อน เป็น 49.6% ในปีนี้ สาเหตุจากค่าครองชีพที่สูงขึ้น ค่าเล่าเรียนบุตรหลานและการซื้อบ้านรถ เป็นต้น
  • นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ รองปลัดกระทรวงการคลัง หัวหน้ากลุ่มด้านรายจ่ายและหนี้สิน เปิดเผยว่า ภายใน 1-2 วันนี้กระทรวงการคลังจะเซ็นสัญญาเงินกู้ตามพ.ร.ก.บริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาทในส่วนที่เหลืออีก 3.2 แสนล้านบาท กับสถาบันการเงิน โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบรายละเอียดและข้อกฎหมายว่าดำเนินตามขั้นตอนถูกต้องหรือไม่

*หุ้นเด่นวันนี้

  • SPCG(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ" แนวโน้มกำไรที่กำลังเติบโตในอัตราเร่งหลังรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้า 16 แห่ง (กำลังการผลิตเต็มที่ 107MW)เต็มปีในปีนี้เป็นปีแรก และทยอยรับรู้อีก 20 โครงการ(กำลังผลิตเต็มที่ 142MW) ที่เหลือในปีนี้ ซึ่งจะรับรู้เต็มปีในปีหน้า จึงคาดกำไรสุทธิช่วงปี 56-57 โตเฉลี่ย 556% จาก 39 ล้านบาทปี 55 เป็น 1,676 ล้านบาทในปี 57 ประเมินมูลค่าโรงไฟฟ้าทั้ง 36 โครงการ(249MW)ได้ที่ 25.25 บาท(DCF)ราคาหุ้นปัจจุบันคิดเป็น Implied PE 17 เท่าปีนี้ และลดลงเหลือเพียง 9.6 เท่าปีหน้าเมื่อรับรู้โรงไฟฟ้าครบทั้ง 36 โครงการ ถูกกว่าโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ที่มี PE เฉลี่ย 12.5 เท่า
  • PTTGC(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"เป้า 84 บาท ลงทุนในโครงการฟินอล 2(ผ่านบริษัทย่อย)มูลค่า 10,450 ล้านบาท โครงการนี้จะมีกำลังผลิตฟีนอล 250,000 ตัน/ปี และอะซิโตน 155,000 ตัน/ปี ทำให้กำลังการผลิตรวมของฟีนอลและอะซิโตนเพิ่มขึ้นอย่างละ 80% เป็น 450,000ตันต่อปี และ 280,000 ตัน/ปีตามลำดับ คาดเริ่มผลิตเชิงพาณิชย์ใน Q3/58 คาดเพิ่ม EBITDA 900-1,000 ล้านบาท/ปี ทำให้กำไรเพิ่มขึ้น 2.8-3% ต่อปีตั้งแต่ปี 58 เป็นต้นไป แม้ว่ากำไรใน Q2/56 จะลดลงอย่างมีนัยสำคัญเพราะหยุดซ่อมบำรุงเครื่องจักรนานกว่า 35 วัน แต่ปัจจุบันซื้อขายที่ PE เพียง 8.4 เท่าในปีนี้ ต่ำกว่าภูมิภาคที่เฉลี่ย 9.5 เท่า
  • AOT (เกียรตินาคิน)"ซื้อ"เป้า 208 บาท คาดผลกระทบง Low Season ปีนี้น้อยกว่าปีก่อน เนื่องจากนักท่องเที่ยวจีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ เพิ่มขึ้นมาก และโลว์คอสต์โต ทำให้เมื่อเทียบ YoY สถิติทางการบินยังเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ ทำให้อัตราการเติบโตของจำนวนผู้โดยสารและเที่ยวบินในช่วง 7M56 สูงกว่าประมาณการ ขณะที่แผนการเปิดสนามบินดอนเมืองเต็มพื้นที่จะทำให้ AOT ไม่มีข้อจำกัดในการเติบโตของรายได้ในอนาคต และยังมี Upside จากการปรับค่าธรรมเนียมซึ่งยังไม่ได้รวมอยู่ในประมาณการ
  • CPALL(เกียรตินาคิน)"ซื้อ"เป้า 63 บาท มองการปรับตัวลงของราคาหุ้นช่วงที่ผ่านมาสะท้อนโอกาสที่บริษัทจะขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยนจากดีลซื้อหุ้น MAKRO ไปแล้ว ขณะที่ยังคงมุมมองบวกกับผลการดำเนินงานใน Q2/56 โดยประเมินว่ากำไรปกติยังคงสูงใกล้เคียงกับในไตรมาส 1/56 จากยอดขายสาขาเดิมเพิ่มขึ้น 8% และการขยายสาขา 150 สาขา ประกอบการรักษาระดับ Gross margin ไว้ได้ที่ 26%
  • TTA(เคทีบี)ยังได้แรงหนุนบวกจากดัชนีค่าระวางเรือเทกอง(BDI) ปรับขึ้นอย่างต่อเนื่อง พร้อมให้ราคาเป้าหมายไว้ที่ 21.08 บาท(SAA Consensus)ตำมลำดับ
  • PTT และ PTTEP (เคทีบี)เป็นหุ้นปัจจัยพื้นฐานแกร่งที่น่าสนใจ"ซื้อ"ผนวกกับ PTT สนใจจัดตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure Fund) ซึ่งเป็นบวกต่อการขยายการลงทุนของ PTT ในอนาคต พร้อมให้ราคาเป้าหมาย 420, 204 บาท ตามลำดับ (SAA Consensus)

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ