(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีปรับตัวขึ้นต่อได้ ต่างชาติกลับมาซื้อหลังคลายกังวล QE

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday June 27, 2013 09:43 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยเช้านี้จะปรับตัวขึ้นต่อได้ จากวานนี้ที่ผ่านมาต่างชาติมีการขายออกสุทธิถึง 1.69 หมื่นล้านบาท โดยเป็น Big lot ของหุ้น MAKRO กว่า 1.76 หมื่นล้านบาท แสดงให้เห็นว่าต่างชาติกลับเข้ามาซื้อกว่า 1 พันล้านบาท รวมถึงมีการซื้อ SET50 futures สูงถึง 2.2 พันสัญญา เป็นสัญญาณที่ดีที่ต่างชาติเริ่มกลับเข้ามา

ประกอบกับ นักลงทุนทั่วโลกมีการคาดการว่า ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) จะยังไม่รีบถอนมาตการกระตุ้นเศรษฐกิจ (QE) เนื่องจากตัวเลข GDP ไตรมาส 1 ครั้งที่ 3 โตน้อยกว่าที่คาดไว้ที่ 2.4 % แต่โตเพียง 1.8 % จึงเป็นผลบวกต่อราคาหุ้นทั่วโลก ในขณะเดียวกันได้ในไทยเองมี การทำ Windows dressing ช่วงปิดงบการเงินไตรมาส 2/56

แต่อย่างไรก็ตามต้องติดตามศาลปกครองนัดฟังคำสั่งในคดีที่สมาคมต่อต้านโลกร้อนขอให้เพิกถอนแผนบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาทของรัฐบาล ว่าจะมีคำตัดสินออกมาอย่างไร ในช่วงบ่ายยนี้ อีกทั้งเช้านี้ตลาดภูมิภาคอยู่ในแดนบวกทั้งหมด

พร้อมให้แนวรับไว้ที่ 1,410-1,415 จุด และแนวต้าน 1,450-1,460 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์ควานนี้(26 มิ.ย.)ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 14,910.10 จุด เพิ่มขึ้น 149.83 จุด(+1.02%) ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 1,603.26 จุด เพิ่มขึ้น 15.23 จุด(+0.96%) และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 3,376.22 จุด เพิ่มขึ้น 28.34 จุด(+0.85%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 134.71 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 3.63 จุด,ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 117.92 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 56.52 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 26.10 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 29.54 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ เพิ่มขึ้น 126.90 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 2.14 จุด และดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลีย เพิ่มขึ้น 0.70 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดวานนี้(26 มิ.ย.)ที่ 1,424.38 จุด เพิ่มขึ้น 39.75 จุด(+2.87%)
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 16,906.67 ล้านบาท เมื่อ 26 มิ.ย.56
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ส.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำวานนี้(26 มิ.ย.)ที่ 95.50 ดอลลาร์/บาร์เรล ปรับขึ้น 18 เซนต์
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดวานนี้(26 มิ.ย.)ที่ 8.7 เหรียญฯ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิดตลาดที่ระดับ 31.12/15 เคลื่อนไหวตามภูมิภาค
  • ตลาดหลักทรัพย์เผยกองทุนเตรียมซื้อหุ้นไทย เห็นโอกาสทำกำไรในช่วงตลาดผันผวน คาดดัชนีมีโอกาสเหวี่ยงขึ้นลง 300 จุด หรือตั้งแต่ระดับ 1300-1600 จุด โดยตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันมีเงินกองทุนซื้อหุ้นไทยแล้ว 5 หมื่นล้านบาท ด้านบลจ.แอสเซท พลัส เชื่อนักลงทุนจับตาตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐว่าจะออกมาดีตามที่คาดไว้ หรือไม่ ถ้าตัวเลขดีตามคาดจะเป็นสัญญาณเชิงบวกให้เงินไหลกลับเข้าลงทุนในตลาดหุ้น อีกครั้ง
  • นักวิชาการแนะทุกภาคส่วนรับมือเศรษฐกิจโลกหลังศก.จีนส่งสัญญาณถดถอย ตลาดเงิน ทุนส่อผันผวนหนัก จี้รัฐรับมือ ศก.ภายในด้วยการลด เลิกประชานิยมที่ไม่มีผลดีต่อระบบเศรษฐกิจโดยเฉพาะจำนำข้าว รถคันแรก ควบคู่กับการดูแล ศก.โลก ขณะที่ ส.อ.ท.ลุ้นรัฐปรับ ครม.วอนขอคนมีความรู้ความสามารถเข้าร่วม ชี้ครึ่งปีหลังต้องรับมือความผันผวน ศก.มากขึ้น
  • "พาณิชย์"เผยส่งออกเดือนพ.ค.ติดลบ 5.25% เหตุเจอพิษบาทแข็ง แถมเศรษฐกิจคู่ค้าชะลอตัว แต่มั่นใจเดือน มิ.ย.เป็นต้นไป สถานการณ์จะดีขึ้น หลังเงินบาทอ่อนค่า ยันทั้งปีโตตามเป้า 7-7.5% แน่
  • นายเกริก วณิกกุล รองผู้ว่าการด้านเสถียรภาพสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้อัตราการขยายตัวของสินเชื่อโดยรวมยังเติบโตได้ดี ยังไม่มีสัญญาณของผลกระทบจากจีนทำให้สินเชื่อที่เกี่ยวข้องการค้าขายกับจีนหดตัวอย่างที่หลายฝ่ายกังวล โดยข้อมูลล่าสุดในสิ้นเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา ยังพบว่าสินเชื่อขยายตัวได้ถึง 13%
  • นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงกรณีเศรษฐกิจของประเทศจีนชะลอตัวว่า จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยบ้าง เพราะจีนเป็นคู่ค้าสำคัญของไทย ทั้งนี้ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) กำลังจับตาดูสถานการณ์เศรษฐกิจจีนและของโลก และมีแนวโน้มจะปรับลดประมาณการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) ของไทย
  • กบง.นัดถกวันที่ 28 มิถุนายนนี้ เลื่อนปรับขึ้นราคาก๊าซแอลพีจีไปอีก 1 เดือน เป็นวันที่ 1 สิงหาคม ย้ำต้องเป็นการเลื่อนครั้งสุดท้าย แจงเหตุฐานข้อมูลชดเชยราคาผู้มีรายได้น้อยยังไม่ลงตัว ขอเตรียมความพร้อมก่อน วงในแย้มการเมืองไม่เอื้อคะแนนรัฐบาลกำลังวูบ กลัวถูกโยงอีกหนึ่งดอก ปตท.-บางจาก ลดราคาโซฮอล์ 30 สตางค์

*หุ้นเด่นวันนี้

  • ILINK-W1 ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญบมจ.อินเตอร์ลิ้งค์ คอมมิวนิเคชั่น (ILINK)เทรดวันนี้วันแรก มีจำนวน 14,997,238 หน่วย โดยมีอัตราการใช้สิทธิ 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิ : 1 หุ้นสามัญใหม่ ราคาการใช้สิทธิ 20.00 บาทต่อหุ้น อายุใบสำคัญแสดงสิทธิ 3 ปี ราคาใบสำคัญแสดงสิทธิ 0.00 บาทต่อหน่วย กำหนดวันใช้สิทธิครั้งแรก 30 ก.ย. 2556 และให้ใช้สิทธิครั้งสุดท้าย 23 มิ.ย. 2559
  • GEN-W4 ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญบมจ.เจนเนอรัล เอนจิเนียริ่ง(GEN)เทรดวันนี้วันแรก มีจำนวน 1,327,187,433 หน่วย อัตราการใช้สิทธิ 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิ : 1 หุ้นสามัญใหม่ ราคาการใช้สิทธิ 1.20 บาทต่อหุ้น อายุใบสำคัญแสดงสิทธิ 3 ปี นับจากวันที่ออกใบสำคัญแสดงสิทธิ ซึ่งออกวันที่ 10 มิ.ย.2556 ราคาใบสำคัญแสดงสิทธิ 0.00 บาทต่อหน่วย กำหนดวันใช้สิทธิครั้งแรก 30 ธ.ค. 2556 ส่วนวันใช้สิทธิครั้งสุดท้าย 9 มิ.ย. 2559
  • ITD(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)"ซื้อเก็งกำไร"เป้า 9.50 บาท สำหรับคนรับความเสี่ยงได้สูง วันนี้ศาลปกครองจะพิจารณาการยื่นคำร้องคัดค้านโครงการบริหารจัดการน้ำของสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน 13.30 น. และ ITD ได้งานบริหารจัดการน้ำรวม 5 โมดูล มูลค่า 1 แสนล้านบาท หากคำตัดสินออกมาในเชิงบวกจะส่งผลให้ราคาหุ้นดีดกลับได้เนื่องจากในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมาราคาลงไปแรงถึง -39.6% เทียบกับ SET INDEX -11.4% ขณะที่ผลประกอบการปี 2556 คาดว่าจะดีขึ้นมากจากปีที่ผ่านมา
  • LOXLEY(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)"ซื้อเก็งกำไร"เป้า 9.20 บาท คาดราคาหุ้นมีแนวโน้มตอบรับเชิงบวก หากผลการตัดสินของศาลปกครองในวันนี้ ต่อโครงการบริหารจัดการน้ำออกมาในเชิงบวก เนื่อง LOXLEY เป็น 1 ในผู้ชนะงานโครงการดังกล่าว จำนวน 1 โมดูล มูลค่าราว 3 พันล้านบาท และเนื่องจากราคาหุ้นปรับตัวลง -19.7% ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา เทียบกับ SET INDEX -11.4% และ SET ICT -8.6% ขณะที่กำไรปกติ 2Q56 คาดว่าจะขยายตัว +110 — 120% yoy เป็น 140 — 150 ล้านบาท จากการรับรู้รายได้งาน 3G เฟด 1 ของ TOT ที่ล่าช้ามาจาก 1Q56
  • SRICHA(เกียรตินาคิน)"ซื้อ"เป้า 45 บาท หุ้นมีความน่าสนใจจากโอกาสในการรับงานเพิ่มทั้งในและต่างประเทศหลังจากประสบความสำเร็จในการก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่ ในปีนี้อยู่ระหว่างประมูลงานรวม 1.6 หมื่นล้านบาท จะชัดเจนในช่วง 2H56 กรณีที่ได้ 2 โครงการ จะทำให้มูลค่า Backlog ในมือสูงกว่าในอดีตที่ผ่านมา สถานะทางการเงินแข็งแกร่ง ไม่มีหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยและมีอัตราผลตอบแทนเงินปันผล 6%
  • PTTEP (เกียรตินาคิน)"ซื้อ"เป้า 170 บาท มองเชิงบวกต่อการฟื้นตัวของราคาน้ำมันดิบใน 2H56 จากสัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ และปริมาณสำรองที่อยู่ในระดับต่ำ นอกจากนี้ ความเป็นไปได้ในการการปรับเพิ่มราคาราคาก๊าซฯ ในรอบเดือน ต.ค. ซึ่งเป็นไปตามทิศทางราคาน้ำมัน ประกอบกับปัจจัยบวกจากการเพิ่มกำลังการผลิตของใน 2 แหล่ง รวมทั้งการเริ่มดำเนินการผลิตโครงการมอนทารา ทำให้คาดว่ายอดขายปิโตรเลียมในปี 2556 จะเติบโตต่อเนื่อง
  • HMPRO(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"เป้า 19.20 บาท แนวโน้มผลประกอบการใน 2Q13 อยู่ในระดับดีจากกำลังซื้อที่ดีต่อเนื่อง จากฐานกำไรที่ต่ำในปีก่อน และรับรู้รายได้จากงาน Expo ส่วนที่เหลืออีก 260 ล้านบาท โดยเราคาดกำไรสุทธิ 762 ล้านบาท +10% Q-Q, +29% Y-Y จากยอดขายสาขาเดิมที่เราคาดโต 7% Y-Y ดีขึ้นมากจาก 1Q13 ที่ -1.7% Y-Y และแนวโน้มกำไรในครึ่งปีหลังจะดีกว่าครึ่งแรก

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ