สำหรับปัจจัยที่จะผลักดันการเติบโตของตลาดหุ้น ได้แก่ กระแสเงินทุน (Fund Flow) ที่จะเข้ามา แต่หากนักลงทุนต่างชาติยังขายสุทธิอยู่ จนถึงสิ้นปี ก็อาจจะไม่เห็นดัชนีหุ้นไทยไปถึง 1,550 จุด แต่หากเป็นการปรับพอร์ตลงทุนแล้วเริ่มมีการจัดสรรกลับมาลงทุนก็จะค่อยๆเห็นเม็ดเงินกลับเข้ามาตามที่คาดการณ์ไว้
กลยุทธ์ครึ่งปีหลังปีนี้ นางโชติกา เห็นว่า การปรับฐานครั้งนี้อาจใช้เวลายาวนาน เพราะเงินทุนที่ไหลเข้ามาในตลาดหุ้นไทยเหมือนคลื่นลูกใหญ่ ดังนั้น ก็ต้องใช้เวลาในการไหลออกไป รวมทั้งต้องติดตามผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนในไตรมาส 2/56 และการประกาศตัวแลขจีดีพีของไทยในไตรมาส 2/56 หากออกมาดีก็เชื่อว่าการลงทุนในตลาดหุ้นไทยก็ยังน่าสนใจ เพราะขณะนี้ตลาดมีระดับ P/E ตลาดอยู่ที่ 12.5 เท่า ซึ่งเป็นระดับไม่สูงเมื่อเทียบกับช่วงก่อนหน้าที่ดัชนีปรับตัวขึ้นไปที่ 1,600 จุด
"กลยุทธ์ช่วงนี้ ให้หนักแน่น มั่นคง เชื่อมั่นในปัจจัยพื้นฐาน P/E 12.5 เท่าถือว่าไม่เพงสำหรับหุ้นไทยตอนนี้ ซึ่งต้องดูผลประกอบการ บจ.ในไตรมาส 2/56 ถ้าไม่ surprise ก็ไม่น่าตกใจมาก เพราะปัจจัยพื้นฐานยังดี ขณะที่ราคาหุ้นถูกมากแล้ว"นางโชติกา กล่าว
อนึ่ง ดัชนี SET เมื่อเวลา 11.19 น. อยู่ที่ 1,436.30 จุด เพิ่มขึ้น 11.92 จุด(+0.84%) โดยฟื้นตัวขึ้นจากที่เคยลงไปต่ำสุดเมื่อวันที่ 25 มิ.ย.56 ที่ระดับ 1,338.81 จุด และเคยขึ้นไประดับสูงสุดที่ 1,649.77 จุดเมื่อวันที่ 21 พ.ค.56