นอกจากนี้ บริษัทยังอยู่ระหว่างเจรจาลูกค้ารายใหญ่อีก 2-3 ราย คาดสรุปได้ในไตรมาส 3-4/56 ซึ่งหากสามารถโอนที่ดินให้ลูกค้ารายใหญ่ได้ครบภายในปีนี้ ก็จะทำให้รายได้ของบริษัทเพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก โดยลูกค้าส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มชิ้นส่วนยานยนต์ ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ อาหาร และยา
นายนิพิฐ กล่าวว่า ขณะนี้นิคมอุตสาหกรรมนวนคร จ.นครราชสีมา ขายที่ดินใกล้หมดแล้ว ทำให้บริษัทต้องขยายเฟส 3 เพิ่ม ซึ่งอยู่ระหว่างพัฒนาในพื้นที่เดิมราว 800 ไร่ ใช้งบลงทุนกว่า 300 ล้านบาทเพื่อก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน และระบบบำบัดน้ำเสีย ขณะนี้การก่อสร้างดำเนินการไปแล้วราว 30-40% และมีลูกค้าเข้ามาจองพื้นที่บ้างแล้ว ส่วนใหญ่เป็นลูกค้าต่างประเทศ โดยเฉพาะญี่ปุ่น คาดว่าจะเปิดดำเนินการได้ภายในปีนี้
พร้อมกันนั้น บริษัทยังอยู่ระหว่างตัดสินใจซื้อที่ดินเพิ่ม เพื่อพัฒนานิคมอุตสาหกรรมแห่งที่ 3 จากปัจจุบันบริษัทมีนิคมอุตสาหกรรมที่จ.นครราชสีมา และจ.ปทุมธานี โดยได้มองพื้นที่อยู่ 3 แห่ง คือขยายนิคมฯ ที่นครราชสีมา อีกราว 800 ไร่ เพราะที่ผ่านมาขายดีมาก หรืออาจจะพัฒนานิคมฯแห่งใหม่ในพื้นที่ภาคตะวันออกอีก 2 แห่ง แห่งละ 1,000 ไร่ คาดว่าจะสรุปได้ปลายปีนี้ ขณะนี้ดูเรื่องการระดมทุนหลายรูปแบบ รวมทั้งการเงินกู้ ซึ่งคงจะสรุปแผนลงทุนเพียง 1 แห่ง
นายนิพิฐ เปิดเผยอีกว่า บริษัทคาดจะได้รับเงินสนับสนุนจากภาครัฐ คือ การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(กนอ.) ในการสร้างแนวกำแพงกั้นน้ำราว 550 ล้านบาท คาดว่าจะได้รับเงินในเดือน มิ.ย.นี้ราว 100-200 ล้านบาท ที่เหลือก็คงจะเป็นทยอยเข้ามาในปีนี้ทั้งหมด รวมทั้งไตรมาส 2/56 จะมีบันทึกเงินชดเชยน้ำท่วมจากบริษัทประกันเข้ามาอีกประมาณ 10 ล้านบาท จากวงเงินประกันที่เหลือ 30 ล้านบาท
"อุตฯนิคมฯ ยังไปได้ เพราะเป็นนักลงทุนกลุ่มที่เข้ามาลงทุนจริง เช่น พวกญี่ปุ่น ซึ่งการลงทุนโดยตรงไม่เกี่ยวกับการเอาเงินออกของต่างชาติตอนนี้"นายนิพิฐ กล่าว