ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อ่อนแรงลง 42.55 จุด หรือ 0.28% ปิดที่ 14,932.41 จุด ดัชนี S&P 500 ลบ 0.88 จุด หรือ 0.05% ปิดที่ 1,614.08 จุด และดัชนี Nasdaq ลดลง 1.09 จุด หรือ 0.03% ปิดที่ 3,433.40 จุด
ตลาดหุ้นนิวยอร์กเปิดตลาดเกือบทรงตัวเมื่อคืนนี้ หลังจากปิดปรับตัวขึ้นเมื่อวันจันทร์ ซึ่งเป็นการเริ่มต้นไตรมาส 3 ของปีนี้ในแดนบวก โดยได้รับแรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสจากสหรัฐและต่างประเทศ
ตลาดบวกขึ้นเมื่อคืนนี้ หลังจากข้อมูลคำสั่งซื้อภาคโรงงานของสหรัฐออกมาสูงกว่าคาดการณ์ของตลาด โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อใหม่ของโรงงานในสหรัฐ ปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.1% ในเดือนพ.ค. มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 2% สะท้อนให้เห็นว่าภาคการผลิตของสหรัฐกำลังฟื้นตัวขึ้น ส่วนคำสั่งซื้อภาคโรงานในเดือนเม.ย.ดีดตัวขึ้น 1% หลังจากร่วงลง 4.7% ในเดือนมี.ค.
อย่างไรก็ตาม ตลาดพลิกผันมาติดลบในการซื้อขายช่วงบ่าย หลังมีรายงานว่ากองทัพของอียิปต์ได้ร่างแผนที่จะยกเลิกรัฐธรรมนูญของประเทศ
ทางด้านนายวิลเลียม ดัดลีย์ ประธานเฟดสาขานิวยอร์ก ไม่ได้ระบุแนวคิดใหม่ๆในการกล่าวสุนทรพจน์เมื่อคืนนี้ โดยระบุว่านโนบายของเฟด ซึ่งรวมถึงการซื้อสินทรัพย์นั้น จะขึ้นอยู่กับแนวโน้มเศรษฐกิจมากกว่ากำหนดเวลา
หุ้นฟอร์ดดีดตัวขึ้น 2.8% หลังจากบริษัทมียอดขายในเดือนมิ.ย.พุ่งขึ้น 13% เมื่อเทียบรายปี ขณะที่หุ้นเจเนอรัล มอเตอร์สก็บวกขึ้น 0.29% จากยอดขายเดือนมิ.ย.ที่เพิ่มขึ้น 6%
ทั้งนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กจะปิดทำการในวันพฤหัสบดีที่ 4 ก.ค.เนื่องในวันชาติสหรัฐ และจะปิดทำการก่อนเวลาในวันพุธที่ 3 ก.ค. โดยนักวิเคราะห์คาดว่าวอลุ่มการซื้อขายจะเบาบางในสัปดาห์นี้ที่มีวันทำการน้อยกว่าปกติ ซึ่งอาจจะทำให้ตลาดมีความผันผวนมากขึ้น