โบรกฯมอง SET ช่วง H2/56 ผันผวนจากปัจจัยเสี่ยงมาก/เชียร์กลุ่มแบงก์-ICT

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday July 3, 2013 14:18 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

โบรกเกอร์ลงความเห็นทิศทางทางตลาดหุ้นไทยในช่วงครึ่งปีหลัง(H2/56)มีโอกาสผันผวนหลังปัจจัยเสี่ยงมีมากขึ้น ตลาดพุ่งเป้าไปที่ประเด็นหลักคือการชะลอมาตรการ QE ของธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) รวมไปถึงเกาะติดเศรษฐกิจจีน เนื่องจากเป็นตัวสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลกด้วยเช่นกัน

ส่วนประเด็นในประเทศ จับตาสถานการณ์การเมืองหลังเปิดประชุมสภาสมัยสามัญทั่วไปในเดือนสิงหาคมนี้ และเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 2/56 จะชะลอตัวลงมากน้อยแค่ไหน

ด้วยปัจจัยเสี่ยงของตลาดฯในช่วงครึ่งปีหลัง(H2/56)ที่มีมากกว่าครึ่งปีแรก ทำให้หลายโบรกเกอร์เริ่มทยอยปรับเป้าหมายดัชนีฯ SET ลง จากการสำรวจล่าสุดกรอบเป้าหมาย SET Index ปีนี้อยู่ในช่วง 1,500-1,640 จุด และมีบางโบรกฯมองว่าตลาดไม่พร้อมจะทำ New High ในครึ่งปีหลังอีกแล้ว

ทั้งนี้ ดัชนี SET ปิดไตรมาส 2/56(สิ้นสุด 28 มิ.ย.56)ที่ระดับ 1,451.90 จุด เพิ่มขึ้น 44.45 จุด(+3.16%)จากดัชนี SET ปิดตลาดเมื่อวันที่ 1 ม.ค.56 ที่ปิดทำการ 1,407.45 จุด

สำหรับหุ้นที่น่าลงทุนในช่วงครึ่งปีหลัง(H2/56)ยังเป็นหุ้นกลุ่ม Domestic Plays โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มแบงก์ และ ICT เป็นหลัก รองลงมาเป็นหุ้นในกลุ่มโรงแรม, โรงพยาบาล, ท่องเที่ยว และพลังงาน ส่วนหุ้นในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ สามารถเลือกลงทุนได้เป็นรายตัว

*DBSV มอง H2/56 ยังผันผวน, ลดเป้า SET ปีนี้เหลือ 1,500 จุด

น.ส.อาภาภรณ์ แสวงพรรค ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส(ประเทศไทย)หรือ DBSV กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยในช่วงครึ่งปีหลัง(H2/56)มองว่าจะยังมีความผันผวน เนื่องจากมีหลายปัจจัยที่ต้องติดตาม โดยเฉพาะในไตรมาส 3/56 ต้องรอดูการเปิดประชุมสภาสมัยสามัญทั่วไปในเดือน ส.ค.หากมีการพิจารณาเรื่องของนิรโทษกรรมก็ต้องรอดูว่าจะเกิดความวุ่นวายทางการเมืองหรือไม่ เป็นต้น

นอกจากนี้ ยังต้อบจับตาตัวเลขเศรษฐกิจไทยไตรมาส 2/56 ที่หน่วยงานต่าง ๆ จะประกาศออกมาในช่วงไตรมาส 3/56 ว่ามีทิศทางที่ชะลอตัวมากแค่ไหน เนื่องจากแนวโน้มขณะนี้มีหลายปัจจัยที่กดดันอยู่ ทั้งการบริโภคและการลงทุน รวมทั้งยังต้องรอดู Earning Preview ของนักวิเคราะห์ฯด้วยว่าจะเป็นอย่างไรบ้าง และมีการมอง Sentiment ตลาดฯเป็นอย่างไร

ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ DBSV กล่าวต่อว่า ล่าสุดทางฝ่ายวิจัยได้มองเป้าหมายดัชนี SET ปีนี้(2556)ไว้ที่ 1,500 จุด ลดลงจากเดิมที่เคยให้ไว้ที่ 1,680 จุด และมองเป้าหมายดัชนี SET ปี 57 ไว้ที่ 1,650 จุด จากเดิมที่ 1,750 จุด การลดเป้าหมายดัชนี SET ลงเป็นการสะท้อนความเสี่ยงของตลาดที่สูงขึ้น ทั้งจากการชะลอมาตรการ QE และเศรษฐกิจจีนที่มีการชะลอตัวลง ซึ่งส่งผลให้เศรษฐกิจโลกชะลอตัวตามไปด้วย

*BLS มอง H2/56 ยังเทรดใกล้ 1,500-1,600 คงเป้า SET ปีนี้ 1,640 จุด

นายชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.บัวหลวง(BLS) กล่าวว่า ทิศทางตลาดหุ้นไทยช่วงครึ่งหลังปีนี้(H2/56)มองว่าตลาดฯคงจะยังสามารถเทรดใกล้ ๆ ระดับ 1,500-1,600 จุด ได้ แต่ระหว่างทางอาจจะมีความผันผวนเป็นช่วง โดยเชื่อว่าระยะเวลา 1-2 เดือนนี้ตลาดฯคงจะปลอดข่าวร้าย และน่าจะค่อยๆ ปรับตัวขึ้นมา

"คิดว่าภาพตลาดไม่มีอะไรเปลี่ยน แค่จะต้องจับตาเรื่องของ QE เพราะพื้นฐานของเราไม่ได้เปลี่ยนไป กำไรของบริษัทจดทะเบียนก็ยังไม่มีอะไรน่ากลัว นักวิเคราะห์ฯยังไม่ได้หั่นกำไรลง ตลาดก็น่าจะเทรดใกล้ๆ ระดับ 1,500-1,600 จุดได้ แต่อาจจะผันผวนเป็นช่วงๆ เพราะการ adjust เรื่องของ QE สามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา"นายชัยพร กล่าว

ทั้งนี้ ในช่วงครึ่งหลังปีนี้คงจะต้องจับตาดูเศรษฐกิจทั้งไทย, จีน และสหรัฐฯ ซึ่งเศรษฐกิจของสหรัฐฯคงจะดีขึ้นแต่ก็คงไม่น่าตื่นเต้นมากนัก ส่วนเศรษฐกิจของจีนก็คาดหวังว่าจะไม่แย่ไปกว่านี้ และคงจะไม่มีปัญหาสภาพคล่อง ส่วนเศรษฐกิจไทยคงจะเห็นการบริโภคที่ชะลอตัว เพราะไตรมาส 2-3 เป็นช่วง Low Season อยู่แล้ว แต่ก็ยังหวังว่าจะดีดกลับมาได้ในช่วงปลายปี ส่วนปัจจัยการเมืองยังไม่คิดว่าจะเป็นประเด็นรุนแรง

นายชัยพร ยังคงมองเป้าหมายดัชนี SET ในปี 56 ที่ 1,640 จุด ส่วนปีหน้าให้เป้าหมาย 1,750 จุด โดยกำไรของบริษัทจดทะเบียนปีนี้คาดว่าจะเติบโต 24% เพิ่มขึ้นจากเดิมที่เคยคาดว่าจะเติบโต 18% เนื่องจากเห็นว่ากลุ่มแบงก์มีการเติบโตที่ดีกว่าคาด, ราคาน้ำมันดีกว่าที่คิดไว้, สเปรดปิโตรเคมีก็ดีขึ้น แม้แต่กลุ่มโรงแรม และอสังหาริมทรัพย์ก็มีผลกำไรที่ดีกว่าคาด

แต่ทั้งนี้ ข้อเสียที่ปีนี้ฐานกำไรบริษัทจดทะเบียนเติบโตดี ทำให้ปีหน้า(2557)มองว่ากำไรบริษัทจดทะเบียนจะเติบโตแค่ 13% จากเดิมที่เคยคาดว่าจะเติบโต 15%

สำหรับหุ้นที่น่าสนใจในการลงทุนในช่วงครึ่งปีหลัง(H2/56)ยังคงเป็นกลุ่ม Domestic Plays ได้แก่ กลุ่มแบงก์ และกลุ่ม ICT เป็นหลัก และก็ยังมีกลุ่มโรงแรม, โรงพยาบาล ส่วนหุ้นในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ให้เลือกลงทุนเป็นรายตัว

"คิดว่าตลาดฯยังไม่พร้อมที่จะทำ New High เมื่อราคาหุ้นขึ้นในระดับหนึ่งก็ควรจะขายทำกำไร"นายชัยพร กล่าว

*MBKET มอง H2/56 เทรด 1,550-1,600, เล็งลดเป้าดัชนี SET ปีนี้

นายภาดล วรรณรัตน์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง(ประเทศไทย) หรือ MBKET กล่าวว่า ทิศทางตลาดหุ้นไทยในช่วงครึ่งปีหลัง(H2/56)น่าจะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,550-1,600 จุด โดยในไตรมาส 3/56 น่าจะสวิงตัวมาก เนื่องจากได้มีการถูกลดประมาณการตัวเลข GDP ของไทยลง ซึ่งน่าจะเป็นแรงกดดันให้กับตลาดในช่วงไตรมาส 3/56 อย่างไรก็ดีมองว่าเศรษฐกิจไทยยังเติบโตดีอยู่ ส่วนในไตรมาส 4/56 ตลาดฯน่าจะปรับตัวขึ้นได้ จาก Fund Flow ที่น่าจะไหลกลับเข้าเอเชียอีกครั้ง

ทั้งนี้ในช่วงเดือน ก.ค., ก.ย. คงจะต้องคอยติดตามการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด)โดยให้รอดูว่าเฟดจะเริ่มชะลอมาตรการ QE เมื่อไร

นายภาดล กล่าวต่อว่า สำหรับเป้าหมายดัชนี SET ปีนี้ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการปรับประมาณการใหม่ ซึ่งคาดว่าน่าจะลดเป้าดัชนี SET ลงมาอยู่แถว 1,600 จุดบวก/ลบ จากเดิมที่มองไว้ที่ 1,650-1,700 จุด เนื่องจากได้มีการทบทวนประมาณการกำไรของทุกกลุ่มใหม่

อย่างไรก็ดี ช่วงครึ่งปีหลัง(H2/56)ยังคงแนะนำลงทุนหุ้นในกลุ่ม ICT เนื่องจากมองว่ามี Downside risk น้อย และเรื่องของการสื่อสารยังเป็น 1 ในปัจจัย 4 ของคนทุกวันนี้แล้ว อีกทั้งยังมีประเด็นบวกจากเรื่องการประหยัดต้นทุน และหุ้นในกลุ่มแบงก์ก็ยังเล่น"เทรดดิ้ง"ได้ เนื่องจากผลกำไรยังดีอยู่ แม้ว่าจะมีความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจจีนอยู่บ้าง

นอกจากนี้ยังมีหุ้นในกลุ่มท่องเที่ยวที่น่าสนใจ เนื่องจากมี AEC ช่วยหนุน และยังเป็นกลุ่มที่ยังมีการเติบโตได้ดี ส่วนหุ้นในกลุ่มพลังงานคงเล่นได้เพียง"เทรดดิ้ง"จากที่มี Downside risk น้อย ซึ่งปัจจุบันมีการเทรดด้วย Valustion ที่ต่ำ ทำให้ Divident Yield ดีขึ้น

ส่วนหุ้นในกลุ่มค้าปลีกไม่แนะนำเนื่องจากราคาแพงเกินไป ปัจจุบันเทรดที่ P/E ราว 25-30 เท่า และกลุ่มนี้ยังต้องระวังเรื่องการบริโภคในประเทศที่ลดลง ซึ่งจะทำให้การเติบโตกำไรไม่ดีนัก และมีโอกาสที่นักวิเคราะห์จะปรับประมาณการกำไรลง อีกกลุ่มที่ไม่แนะนำเป็นกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง เนื่องจากมีความเสี่ยงจากนโยบายรัฐบาล


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ