หลังจากตลาดเปิดทำการได้ไม่นาน ดัชนีดาวโจนส์ลดลง 29 จุด หรือ 0.2% แตะที่ 14,904 จุด ดัชนี S&P 500 ปรับตัวลดลง 6 จุด หรือ 0.4% แตะที่ 1,608 จุด และดัชนี Nasdaq ลดลง 8 จุด หรือ 0.2% แตะที่ 3,425 จุด
ADP ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยตลาดแรงงานในสหรัฐ เปิดเผยว่า ภาคเอกชนทั่วสหรัฐมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 188,000 ตำแหน่งในเดือนมิ.ย.เมื่อเทียบกับเดือนพ.ค. ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ ขณะเดียวกันกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 29 มิ.ย. ปรับตัวลดลง 5,000 ราย มาอยู่ที่ 343,000 ราย ส่งสัญญาณว่าตลาดแรงงานสหรัฐกำลังกระเตื้องขึ้นอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ดี ข้อมูลแรงงานที่ดีเกินคาดไม่ได้ช่วยให้ตลาดหุ้นนิวยอร์กเปิดในแดนบวก เนื่องจากตลาดยังคงได้รับแรงกดดันจากสถานการณ์ที่น่าเป็นห่วงในอียิปต์และโปรตุเกส
ความกังวลเกี่ยวกับภาวะไร้เสถียรภาพทางการเมืองในอียิปต์ได้เพิ่มมากขึ้น ผู้เชี่ยวชาญด้านการเมืองท้องถิ่นของอียิปต์เปิดเผยว่า ตำแหน่งประธานาธิบดีของนายโมฮัมเหม็ด มอร์ซี เริ่มสั่นคลอนมากขึ้นทุกที เนื่องจากเขาได้รับแรงกดดันจากชาติตะวันตกให้รับฟังความต้องการของกลุ่มผู้ประท้วงที่เรียกร้องให้เขาลาออกและจัดการเลือกตั้งประธานาธิบดีให้เร็วขึ้น
เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา กองทัพอียิปต์ได้ขีดเส้นตายให้กลุ่มต่างๆแก้ไขความขัดแย้งทางการเมืองที่ดำเนินอยู่ในขณะนี้ให้ได้ มิฉะนั้นกองทัพจะใช้แผนการควบคุมสถานการณ์ความวุ่นวายภายในประเทศในอนาคต
นอกจากนี้ ตลาดยังวิตกกังวลว่าวิกฤตหนี้ยุโรปอาจย่ำแย่ลงท่ามกลางสถานการณ์การทางการเมืองของโปรตุเกสที่อยู่ในภาวะผันผวน หลังจากที่นายเปาโล พอร์ตาส รัฐมนตรีต่างประเทศ และนายวิตอร์ กาสปาร์ รัฐมนตรีคลัง ลาออกจากตำแหน่งเพราะไม่พอใจนโยบายรัดเข็มขัดของรัฐบาล ซึ่งถือเป็นการส่งสัญญาณว่ารัฐบาลโปรตุเกสจะต้องเผชิญกับความยากลำบากในการใช้มาตรการรัดเข็มขัดเพิ่มเติม