(เพิ่มเติม1) สมาคมบจ.ไทยเผยผลสำรวจนักบริหารส่วนใหญ่คาดศก.ปีนี้ขยายตัวต่ำกว่า 4.5%

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday July 4, 2013 14:47 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสุรงค์ บูลกุล นายกสมาคมบริษัทจดทะเบียนไทย เปิดเผยผลสำรวจ CEO Survey Economic Outlook ครึ่งหลังปี 56 ว่าผู้บริหารส่วนใหญ่ 57% เห็นว่าอัตราการขยายตัวเศรษฐกิจของไทย(จีดีพี)ในปีนี้จะขยายตัวต่ำกว่า 4.5% ขณะที่ผู้ที่ถูกสำรวจ 1 ใน 4 คาดว่าเศรษฐกิจจะขยายตัวได้ 4.5-5.0% ซึ่งต่ำกว่าผลสำรวจเมื่อครั้งที่ผ่านมาที่ส่วนใหญ่คาดว่าจีดีพีจะสูงกว่า 4.5%

ทั้งนี้ เนื่องจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยมากที่สุด โดยให้น้ำหนักที่วิกฤตยุโรป 50% การชะลอตัวเศรษฐกิจจีน 28% และปัญหาทางการคลังสหรัฐอเมริกา 22%

ส่วนปัจจัยด้านเสถียรภาพทางการเมืองและนโยบายของรัฐบาลยังอยู่ใน 3 อันดับแรกของปัจจัยเสี่ยงที่ผู้บริหารเห็นว่ามีผลต่อการขยายตัวของจีดีพี เช่นเดียวกับกับความผันผวนของค่าเงินบาท การลดลงของกำลังซื้อในประเทศ ที่เพิ่มขึ้นจากอันดับ 7 มาเป็นอันดับที่ 5 ขณะที่ค่าแรงลดลงจากอันดับ 5 ไปเป็นอันดับ 8

ในช่วงครึ่งปีหลังมองว่ายังมีความผันผวนหลายปัจจัย ได้แก่ เศรษฐกิจจีน ยุโรป และ มาตรการผ่อนคลายการเงินเชิงปริมาณ(QE)ของสหรัฐ การไหลของเงินจะลดลง ดังน้นบริษัทจดทะเบียนต้องปรับตัวให้มีการใช้เงินให้มีประสิทธิภาพสูงสุด และต้องเข้าใจกลไกตลาด

นอกจากนี้ จากผลสำรวจผู้บริหาร แสดงความเป็นห่วงเสถียรทางการเมืองของประเทศ โดยส่วนที่กระทบต่อบริษัทจดทะเบียนเป็นความไม่ชัดเจนของนโยบายรัฐบาล ได้แก่ โครงการรับจำนำข้าว เรื่องหนี้สาธารณะ ซึ่งเป็นเหตุผลที่สังคมต้องการเห็นตัวเลขชัดเจนและถูกต้อง ขณะเดียวดันมองว่าเรื่องความโปร่งใสสำคัญกว่าตัวเลข ซึ่งหากชัดเจนตอบโจทย์ได้จะส่งผลดีต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน

"จากที่ได้ไปโรดโชว์ต่างประเทศ นักลงทุนก็ได้แสดงความเป็นห่วงเรื่องนี้เช่นกัน อย่างไรก็ตาม นักลงทุนต่างประเทศยังมีความมั่นใจเข้าลงทุนในประเทศไทย แต่เป็นห่วงเรื่องกลไกรัฐบาลที่ไม่สอดคล้องกับทิศทางตลาด หากปรับให้สอดคล้องก็จะทำให้ความเชื่อมั่นกลับมา เพราะไทยยังน่าสนใจเมื่อเทียบกับประเทศในแถบอาเซียน"นายสุรงค์ กล่าว

ส่วนการปรับคณะรัฐมนตรีครั้งใหม่นั้น นายกสมาคมบริษัทจดทะเบียนไทย มองว่าในแง่ทีมเศรษฐกิจมีทิศทางที่ดีขึ้นทั้งแนวทางแก้ไขเรื่องโครงการจำนำข้าว และการปรับโครงสร้างราคาพลังงาน

อย่างไรก็ตาม จากการสำรวจภาวะเศรษฐกิจ อุตสาหกรรม และธุรกิจของตัวเอง ถึงแนวโน้มการลงทุนในอีก 12 เดือนข้างหน้าพบว่ามีเพียง 7% ที่ลดการลงทุน โดยส่วนใหญ่ 73% ระบุว่าจะลงทุนเพิ่ม ซึ่ง 52% มีแผนจะลงทุนเพิ่มขึ้นบ้าง และ 21% คาดจะลงทุนเพิ่มขึ้นมาก บริษัทที่จะระดมทุน ระบุว่าเลือกใช้กำไรสะสม 52% ขอสินเชื่อจากสถาบันการเงิน 22% และออกหุ้นกู้ในประเทศ 31%

สำหรับปัจจัยที่ส่งผลลบต่อแผนการลงทุน ได้แก่ ปัญหาเศรษฐกิจในประเทศ 79% และปัญหาการเมือง 63% ส่วนใน 6 เดือนข้างหน้า ปัจจัยที่ผู้บริหารกังวลมากคือทีมและนโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาล รองลงมาเสถียรภาพทางการเมือง

และจากการสำรวจสถานการณ์ภาคอสังหาฯของไทย ผู้บริหารส่วนใหญ่ 47% ไม่น่ากังวลเพราะยังไม่ร้อนแรงจนเรียกได้ว่าเป็นฟองสบู่ แต่ 30% เห็นว่าเกิดฟองสบู่แล้วและอาจสร้างความเสี่ยงต่อระบบเศรษฐกิจในอนาคต ส่วนค่าเงินบาท 42% เห็นควรปล่อยให้เป็นไปตามกลไกตลาด ขณะที่ 40%ควรเก็บภาษีเงินทุนจากต่างประเทศที่เข้ามาหาผลตอบแทนในระยะสั้น และ 18% ให้ลดดอกเบี้ยเพื่อชะลอเงินทุนไหลเข้า

ขณะที่โครงการลงทุน 2 ล้านล้านบาทของรัฐบาล ผู้บริหาร 60% เห็นว่ามีผลต่อสภาพคล่องในระบบไม่มาก เนื่องจากโครงการใหญ่มักมีความล่าช้าในการดำเนินการ และ 32% คาดจะยังไม่กระทบต่อสภาพคล่องในปีนี้แต่จะเริ่มมีผลปี 57


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ