สำหรับ พันธบัตรรัฐบาล รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุดในวันนี้คือ พันธบัตรรุ่น LB176A, LB155A และ LB145B (รุ่นอายุ 3.9 ปี, 1.8 ปี และ 0.8 ปี ตามลำดับ) โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 11,984 ล้านบาท หรือคิดเป็น 69% ของมูลค่าการซื้อขายพันธบัตรรัฐบาลทั้งหมด ทางด้าน หุ้นกู้เอกชน รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรกในวันนี้ คือ
1. หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ และไม่มีประกันของบริษัท ควอลิตี้ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) (QH143A) มูลค่า 262.0 ล้านบาท
2. หุ้นกู้มีประกันของบริษัท โตโยต้า ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด (TLT138A) มูลค่า 131.6 ล้านบาท
3. หุ้นกู้ของบริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) (PS13NA) มูลค่า 100.6 ล้านบาท
โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 494.2 ล้านบาท หรือคิดเป็น 50.5% ของมูลค่าการซื้อขายหุ้นกู้เอกชนทั้งหมดในวันนี้
ทางด้านประเภทของนักลงทุน ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงที่สุดเป็น 2 อันดับแรกในวันนี้ คือ
1. กลุ่มบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 13,689 ล้านบาท
2. กลุ่มบริษัทจดทะเบียนในประเทศ มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 2,271 ล้านบาท
ในขณะที่นักลงทุนต่างชาติ มียอดขายสุทธิ เท่ากับ -940 ล้านบาท
ผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 3 เดือน ปิดที่ 2.54% ไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากเมื่อวาน และผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 5 ปี ปิดที่ 3.43% ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน 0.03%
Yield Curve ปรับเพิ่มขึ้นในตราสารอายุ 3 ปีขึ้นไป ประมาณ 1-4 bps. ปริมาณการซื้อขายค่อนข้างเบาบางเนื่องจากขาดปัจจัยใหม่ๆ นักลงทุนยังคงรอติดตามตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ และผลประชุมนโยบายการเงินยูโรโซน โดยตลาดคาดว่า ECB จะคงดอกเบี้ยที่ 0.5% สำหรับนักลงทุนต่างชาติ มียอดขายสุทธิ (NET SELL) เท่ากับ 940 ล้านบาท