สำหรับ พันธบัตรรัฐบาล รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุดในวันนี้คือ พันธบัตรรุ่น LB176A, LB155A และ LB15DA (รุ่นอายุ 3.9 ปี, 1.8 ปี และ 2.4 ปี ตามลำดับ) โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 5,008 ล้านบาท หรือคิดเป็น 82% ของมูลค่าการซื้อขายพันธบัตรรัฐบาลทั้งหมด ทางด้าน หุ้นกู้เอกชน รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรกในวันนี้ คือ
1. หุ้นกู้มีประกันของบริษัท โตโยต้า ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด (TLT138A) มูลค่า 354.2 ล้านบาท
2. หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิและไม่มีหลักประกันของบริษัท ควอลิตี้ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) (QH144A) มูลค่า 200.2 ล้านบาท
3. หุ้นกู้มีประกันของบริษัท โตโยต้า ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด (TLT13OA) มูลค่า 107.7 ล้านบาท
โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 662.2 ล้านบาท หรือคิดเป็น 47.0% ของมูลค่าการซื้อขายหุ้นกู้เอกชนทั้งหมดในวันนี้
ทางด้านประเภทของนักลงทุน ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงที่สุดเป็น 2 อันดับแรกในวันนี้ คือ
1. กลุ่มบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 10,483 ล้านบาท
2. กลุ่มบริษัทจดทะเบียนในประเทศ มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 25,375 ล้านบาท
ในขณะที่นักลงทุนต่างชาติ มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 160 ล้านบาท
ผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 3 เดือน ปิดที่ 2.54% ไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากเมื่อวาน และผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 5 ปี ปิดที่ 3.43% ไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากเมื่อวาน
Yield Curve ค่อนข้างนิ่งในทุกช่วงอายุตราสาร โดยปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในตราสารอายุ 5 ปีขึ้นไป ประมาณ 1 bp. ปริมาณการซื้อขายค่อนข้างเบาบาง ล่าสุด ECB มีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0.5% ซึ่งเป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ด้านนักลงทุนยังคงรอติดตามตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ โดยเฉพาะตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่จะประกาศคืนนี้ สำหรับนักลงทุนต่างชาติ มียอดซื้อสุทธิ (NET BUY) เท่ากับ 160 ล้านบาท