CKP คาดระดมทุนได้ 2.86 พันลบ.จากขาย IPO, เข้าเทรด 18 ก.ค.

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday July 8, 2013 15:27 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางสุภามาส ตรีวิศวเวทย์ กรรมการผู้จัดการ บมจ. ซีเค พาวเวอร์ (CKP) กล่าวว่า ในการเสนอขายหุ้นสามัญแก่ประชาชน (IPO) จำนวน 220 ล้านหุ้นครั้งนี้ แบ่งออกเป็นการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 180 ล้านหุ้น และการเสนอขายหุ้นสามัญเดิม 40 ล้านหุ้น โดยเงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้ จะนำมาชำระคืนเงินกู้ เป็นเงินทุนในอนาคต และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ คิดเป็นมูลค่าการเสนอขาย 2,860 ล้านบาท

ปัจจุบัน ซีเค พาวเวอร์ ลงทุนในโรงไฟฟ้า 6 แห่งจากแหล่งพลังงานที่หลากหลาย ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งมีศักยภาพการเติบโต ประกอบด้วยโรงไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์บางเขนชัย และโรงไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์นครราชสีมาโซล่ารที่ จ.นครราชสีมา โรงไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์เชียงรายโซล่าร์ที่ จ. เชียงราย โรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนบางปะอิน โคเจนเนอเรชั่น 1 และบางปะอิน โคเจนเนอเรชั่น 2 ที่จ.พระนครศรีอยุธยา และโรงไฟฟ้าพลังน้ำน้ำงึม 2 ในประเทศ สปป.ลาว และกำลังศึกษาความเป็นไปได้ในการลงทุนพัฒนาโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนอีก 8 แห่ง ในภาคกลางและภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย ตลอดจนการลงทุนเพิ่มเติมใน สปป.ลาว ซึ่งถือได้ว่าเป็นแหล่งพลังงานที่สำคัญของภูมิภาค โดยประกอบด้วยโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังน้ำน้ำบากและโรงไฟฟ้าพลังน้ำไซยะบุรี รวมทั้งการสำรวจความเป็นไปได้ในการเข้าลงทุนในประเทศเมียนมาร์ ซึ่งเป็นตลาดใหม่ที่มีศักยภาพและโอกาสเติบโตสูง

นายก้องเกียรติ โอภาสวงการ ประธานกรรมการบริหาร บล. เอเซียพลัส (ASP) ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้น CKP มั่นใจว่าการเสนอขายหุ้นครั้งนี้จะได้รับการตอบรับจากเป็นอย่างดี เนื่องจาก CKP มีฐานรายได้ที่มั่นคง มีการกระจายความเสี่ยงไปยังธุรกิจไฟฟ้าหลายรูปแบบ มีโครงการที่ดำเนินการอยู่และสามารถส่งมอบได้ในอนาคต อีกทั้งเป็นบริษัทที่มีโอกาสเติบโตสูง จึงเหมาะสำหรับนักลงทุนระยะยาว ซึ่ง CKP ได้รับความสนใจเป็นอย่างยิ่งจากผู้ที่เข้าใจในธุรกิจ และผู้ที่มีความใกล้ชิดกับบริษัท จึงทำให้บริษัทจัดสรรให้ผู้มีอุปการะคุณในสัดส่วนที่ใหญ่ ส่วนที่เหลือนั้นจัดสรรให้กับนักลงทุนรายย่อยและนักลงทุนสถาบัน โดยกำหนดราคาเสนอขายที่ 13 บาท ซึ่งคิดเป็นราคาปิดต่อมูลค่าทางบัญชีที่ 1.28 เท่า เทียบกับราคาปิดต่อมูลค่าทางบัญชีของบริษัทที่มีลักษณะการประกอบธุรกิจในลักษะณะเดียวกัน ที่ 1.73 เท่า คิดเป็นส่วนลด 26% ระยะเวลาจองซื้อระหว่างวันที่ 10-12 กรกฎาคม ซึ่งเลื่อนจากกำหนดการเดิมมาแค่ 6 วัน และคาดว่าจะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในวันที่ 18 กรกฎาคมนี้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ