(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้าลุ้นรีบาวน์ตามภูมิภาค แต่ความกังวลกรณี QE-ศก.จีนยังกดดัน

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday July 9, 2013 09:36 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายณาศิส ประเสริฐกุล รองผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บล.เกียรตินาคิน กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้มีแนวโน้มที่ดัชนีจะมีการรีบาวน์ในช่วงสั้น หลังจากเมื่อวานดัชนีปรับตัวลงแรง ซึ่งเป็นไปตามตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่ช่วงเช้าดัชนีรีบาวน์กลับเป็นบวก รับแรงหนุนผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนในสหรัฐฯไตรมาส 2/56 ออกมาดี ทำให้ดัชนีดาวโจนส์เมื่อคืนนี้ปิดในแดนบวก

นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยบวกจากการได้ข้อสรุปเกี่ยวกับเงินกู้ของกรีซ ซึ่งเป็นอีกแรงที่ช่วยหนุนตลาด

อย่างไรก็ตามในระยะยาว ยังมีความกังวลเกี่ยวกับการลดขนาดและยกเลิกมาตรการ QE ในสหรัฐฯ และความกังวลตัวเลข GDP ของจีนที่คาดว่าออกมาต่ำกว่าที่ตลาดคาดไว้ ซึ่งต้องติดตามในสัปดาห์หน้า

พร้อมให้แนวต้าน 1,430 จุด แนวรับ 1,380 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์ควานนี้(8 ก.ค.)ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 15,224.69 จุด เพิ่มขึ้น 88.85 จุด(+0.59%) ดัชนีเอส
แอนด์พี 500 ปิดที่ 1,640.46 จุด เพิ่มขึ้น 8.57 จุด(+0.53%) และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 3,484.83 จุด เพิ่มขึ้น 5.45 จุด
(+0.16%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 186.10 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 28.37 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 5.19 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 11.78 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 11.58 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 4.15 จุด และดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 10.20 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดวานนี้(8 ก.ค.)ที่ 1,404.64 จุด ลดลง 36.69 จุด(-2.55%)
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 3,904.49 ล้านบาท เมื่อ 8 ก.ค.56
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ส.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำวานนี้(8 ก.ค.)ที่ 103.14 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 0.08 ดอลลาร์
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดวานนี้(8 ก.ค.)ที่ 8.9 เหรียญฯ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิดตลาด 31.43/45 ทรงตัว รอความชัดเจนผลประชุม กนง.พรุ่งนี้
  • ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยปรับลดคาดการณ์การขยายตัวเศรษฐกิจ (จีดีพี) ปี 2556 เป็นครั้งที่ 2 เหลือ 4.3% จากเดิม 5% บนพื้นฐานการส่งออกโต 4.1% เงินเฟ้อ 2.3-2.7% และดุลบัญชีเดินสะพัดติดลบ 0.2% ติดลบเป็นครั้งแรกหลังเกิดวิกฤตปี 2540 โดยเศรษฐกิจไทยจะขยายตัวต่ำสุดในไตรมาส 3 และฟื้นตัวในไตรมาส 4 แต่หากเศรษฐกิจจีนและยุโรปยังไม่ดีขึ้น อาจทำให้จีดีพีปีนี้ขยายตัวลดลงเหลือ 3.5-4%
  • ผู้บริหารกองทุน คาดเงินไหลออกไทยและตลาดเกิดใหม่ เกิดขึ้นระยะสั้น ยังมั่นใจระยะยาว พื้นฐานเศรษฐกิจแข็งแกร่ง ด้าน กบข.ปรับพอร์ตลงทุน มั่นใจระยะยาวลงทุนหุ้นผลตอบแทนสูง ขณะต่างชาติเดินหน้าขายหุ้นไทย ตั้งแต่ต้นปีขายสุทธิ 8.1 หมื่นล้าน
  • บอร์ดกระจายเสียง เตรียมนำข้อเสนอร่างฯหลักเกณฑ์ประมูลทีวีดิจิทัล ลดสัดส่วนเนื้อหาข่าว-สาระ ช่องข่าว เหลือ 50% สร้างความแตกต่างช่องบริการสาธารณะ พร้อมเพิ่มราคาเคาะประมูลช่องเด็กใหม่ครั้งละ 2 ล้านบาท เสนอบอร์ด กสท. พิจารณา ก่อนชงเข้าบอร์ด กสทช. 17 ก.ค.
  • "แบงก์ชาติ"หนุนการแข่งขันในระบบธนาคารพาณิชย์ หวังเสริมความแข็งแกร่ง รองรับเปิด "เออีซี" มั่นใจแบงก์ไทยแข่งในบ้านได้ แต่อนาคตอยากให้แข่งในต่างประเทศได้ด้วย ส่วนแผนเปิด ไลเซนส์ Subsidiary เป็นไปตามแผนพัฒนาระบบสถาบันการเงินระยะ2 ย้ำบริการในอนาคตยังเข้มไม่ให้มีตราสารประเภทเก็งกำไร
  • นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง เปิดเผยว่า การขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่มปลอมของกลุ่มส่งออกที่มีการใช้หลักฐานเท็จมาขอคืนภาษีนั้นขณะนี้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กำลังสอบสวนและใกล้ได้ข้อสรุปแล้วคาดว่าจะมีการร้องทุกข์กล่าวโทษผู้เกี่ยวข้องได้ในเร็วๆ นี้
  • น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตรนายกรัฐมนตรี ได้หารือกับผู้ประกอบการอุตสาหกรรมเกษตรและอาหาร โดยนายกรัฐมนตรี ชี้แจงว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินจัดทำโซนนิ่งภาคการเกษตร จึงต้องให้ผู้ประกอบการส่งออกสินค้าเกษตรปรับธุรกิจให้เชื่อมโยงกันมากขึ้น

*หุ้นเด่นวันนี้

  • PTTGC (เกียรตินาคิน)"ซื้อ"เป้า 92 บาท แม้ผลประกอบการ 2Q56 คาดว่าจะอ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับ 1Q56 จากหลายๆปัจจัยลบ แต่แนวโน้มผลประกอบการในครึ่งปีหลังมีแนวโน้มดีขึ้นจากข้อมูลล่าสุดของบริษัทแจ้งว่า มีสัญญาณการฟื้นตัวของค่าการกลั่นในกลุ่มผลิตภัณฑ์สำคัญอย่างน้ำมันดีเซลและน้ำมันเครื่องบิน ขณะที่กำลังการกลั่นของ PTTGC กลับมาสู่ระดับปกติใน 3Q56 เป็นต้นไปหลังหยุดซ่อมนานใน 2Q56 ทำให้จะเห็นการฟื้นตัวของกำไรสุทธิ 3Q56
  • CPF(เกียรตินาคิน)"ซื้อเก็งกำไร"มีความเป็นไปได้สูงที่จะกลับมามีกำไรในไตรมาสที่ 2 หลังจากขาดทุนต่อเนื่องมา 2 ไตรมาสติดต่อกัน โดยที่ในส่วนของธุรกิจหลักจะได้รับปัจจัยหนุนจากราคาไก่ที่ปรับขึ้นมา 14% QoQ มาอยู่ที่เฉลี่ย 46 บาท/ก.ก. และราคาหมูที่ปรับขึ้นมา 6% QoQ ตามราคาไก่มาอยู่ที่เฉลี่ย 67 บาท/ก.ก. ทำให้แม้ว่าในฝั่งของต้นทุนพบว่าราคาอาหารสัตว์ยังคงทรงตัว QoQ แต่อัตรากำไรขั้นต้นของบริษัทมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจาก 9% ในไตรมาสที่ 1 มาอยู่ที่ราว 12% ได้ นอกจากนี้อุปทานของสินค้าไก่ที่จะหายไป จากการปิดกิจการของคู่แข่งจะส่งผลต่อราคาไก่ในระยะต่อไปด้วย
  • THCOM(ทรีนีตี้)"ซื้อ"เป้า 39 บาท ผู้บริหารเผยแนวโน้มธุรกิจช่วง 2H56 จะเน้นเปิดตลาดใหม่ขยายฐานลูกค้า รวมถึงมีแผนยิงไทยคม 6 ปลายปีนี้ ยิงไทยคม 7 ช่วงต้นปี 2557 ส่วนแผนไทยคม 8 จะได้ความชัดเจนภายในเดือน ก.ค.-ส.ค. ทั้งนี้ มีมุมมองเชิงบวกต่อผลประกอบการ THCOM โดยแรงหนุนหลักปี 2556 จะมาจากการเลิกธุรกิจ Mfone (ไม่ต้องรับรู้ผลขาดทุน 500 ลบ.ต่อปี) และดีล iPSTAR ในจีน(จะรับรู้รายได้ประจำ 280 ลบ.ต่อปี) และในไทย คาดกำไรทั้งปีที่ 1,587 ลบ. โต 814% YoY นอกจากนี้ บริษัทอยู่ระหว่างเจรจาดีลอินเดียจะได้ความชัดเจนในครึ่งปีหลัง
  • BTS(ทรีนีตี้)บริษัทลงนามร่วมมือกับ PT Jakarta Monorail ซึ่งเป็นผู้รับสัมปทานโครงการรถไฟฟ้าโมโนเรลในกรุงจาการ์ตา เพื่อรับงานออกแบบ ก่อสร้าง และบริหารการจัดการรถไฟฟ้าโมโนเรลสายแรกรวมระยะทาง 29.8 กิโลเมตรมูลค่าการลงทุนสูงถึง 2.4 หมื่นล้านบาท โดยบริษัทจะเป็นผู้ให้บริการเดินรถ และซ่อมบำรุงตลอดอายุสัมปทาน 40 ปี มองว่า BTS จะได้รับประโยชน์ในรูปแบบของส่วนแบ่งรายได้ และ/หรือ ค่าที่ปรึกษา ซึ่งจะเข้ามาหนุนฐานกำไรในระยะยาว โดยกรุงจาการ์ตานั้นมีจำนวนประชากร กว่า 10 ล้านคน (กทม. ราว 6-7 ล้านคน)
  • BECL(ทรีนีตี้)จะปรับขึ้นค่าผ่านทางเฉลี่ย 5 บาท ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย. นี้ โดยเป็นไปตามสัญญาสัมปทานที่การทางพิเศษแห่งประเทศไทย ดำเนินการกับ BECL ซึ่งต้องมีการปรับค่าผ่านทางทุก 5 ปี ซึ่งคำนวณตามดัชนีผู้บริโภค โดย รมว.คมนาคมเผยได้เรียกผู้ว่า กทพ. มาหารือเพื่อหาแนวทางเยียวยาผู้ใช้ทางด่วน ซึ่งอาจเป็นการให้ส่วนลด Easy Pass ประมาณ 5-10% ทั้งนี้ มองว่าข่าวนี้เป็นบวกกับ BECL โดยมีราคา Median Consensus ที่ 47.25 บาท
  • QH(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"เป้า 5 บาท ยอด presales 2Q13 -29% Q-Q, -6% Y-Y ทำให้ยอด presales ครึ่งปีแรกเป็น 63% ของเป้าทั้งปีที่ 2 หมื่นล้านบาท แม้ว่าโครงการที่จะเปิดใหม่ใน 2H13 จะมีมูลค่ารวมเพียง 5.6 พันล้านบาท แต่มีโครงการที่อยู่ระหว่างขายอีก 4 หมื่นล้านบาท จึงน่าจะทำได้ตามเป้า สำหรับกำไรใน 2Q13 คาดดีขึ้น Q-Q และน่าจะ peak ใน 3Q13 ราคาหุ้นที่ปรับลงมา 32% ตั้งแต่ มิ.ย. แรงกว่ากลุ่มที่ลงเฉลี่ย 22%

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ