สำหรับที่มาของความสำเร็จของโครงการมาจากความโดดเด่นในด้านทำเลที่ตั้งของโครงการ เนื่องจากตั้งอยู่ในย่าน South Kensington(SW7) ซึ่งเป็นย่านที่ได้รับความนิยมจากคนไทยในการเลือกพักอาศัย เพราะใกล้กับสถานฑูตไทย, Imperial College, สถานที่ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม, แหล่งช็อปปิ้งยอดนิยมในย่าน Knightsbridge เช่น Harrods และ Harvey Nichols, สวนสาธารณะ Hyde Park เป็นต้น นอกจากนั้น ยังมีความปลอดภัยสูงและสะดวกสบายในการเดินทางเพราะติดกับสถานีรถไฟใต้ดินและรถประจำทาง รวมถึงการออกแบบซึ่งโดดเด่นด้วยดีไซน์ภายนอกอาคารแบบ Victorian Style และการตกแต่งภายในสไตล์ร่วมสมัยที่ผสมผสานความโมเดิร์น เข้ากับความคลาสสิคของประเทศอังกฤษ รวมถึงการติดเครื่องปรับอากาศที่นับเป็นเรื่องพิเศษมากในอังกฤษ
นอกจากนี้ ขนาดห้องยังสามารถตอบรับความต้องการของผู้ซื้อเพราะมีทั้งแบบ 2 ห้องนอนและ 3 ห้องนอน ขนาดตั้งแต่ 60 ตร.ม. — 146 ตร.ม. ตลอดจนยังมีการปรับเลย์เอาท์ห้องให้เข้ากับพฤติกรรมและไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของคนไทย ไม่เพียงแต่การตกแต่งภายในอาคาร แต่ยังเป็นการปรับปรุงโครงสร้างภายในและระบบอาคารใหม่อีกด้วย อีกทั้งยังสะดวกสบายจากการตกแต่งพร้อมอยู่ที่ลูกค้าสามารถหิ้วกระเป๋าเข้าอยู่ได้ทันที ตลอดจนยังสามารถรับสิทธิ์ Resident Parking Permit หรือใบอนุญาตให้จอดรถได้ในเขต Royal Borough of Kensington & Chelsea ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งถือเป็นอภิสิทธิ์ของผู้ที่มีที่พักอาศัยในย่านนี้เท่านั้น นอกจากนั้น แสนสิริยังมอบบริการด้านไลฟ์สไตล์ระดับโลกจาก Quintessentially เพื่ออำนวยความสะดวกในการอยู่อาศัยในอังกฤษอีกด้วย
ทั้งนี้ แผนการลงทุนพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในต่างประเทศในอนาคต บริษัทยังคงอยู่ระหว่างการศึกษาและยังคงเป็นเป้าหมายที่ท้าทาย อย่างไรก็ดี บริษัทจะเน้นการลงทุนในประเทศที่พัฒนาแล้วอาทิ ในทวีปยุโรปและอเมริกาเนื่องจากเป็นตลาดที่มีความเติบโตและมั่นคง