บลจ.กสิกรไทย ขายกองทุนตราสารหนี้ 9 เดือนใน 9-15 ก.ค. ชูผลตอบแทน 2.85%

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday July 9, 2013 12:08 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายชัชชัย สฤษดิ์อภิรักษ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บลจ.กสิกรไทย เปิดเผยว่า บลจ.กสิกรไทยจะเสนอขายกองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ 9 เดือน เอ(KFI9MA) ซึ่งให้โอกาสรับผลตอบแทนหลังหักค่าใช้จ่ายกองทุนที่ 2.85% ต่อปี โดยผู้ลงทุนบุคคลธรรมดาไม่ต้องเสียภาษี เพื่อเสนอเป็นทางเลือกใหม่ให้แก่ผู้ลงทุนที่ต้องการโอกาสรับผลตอบแทนที่น่าสนใจ และต้องการลงทุนในตราสารหนี้ที่มีกำหนดอายุโครงการระยะปานกลาง โดยเสนอขายครั้งเดียวในวันที่ 9-15 ก.ค.นี้
"ในสัปดาห์นี้ บลจ.กสิกรไทยถือเป็นบลจ.เพียงรายเดียว ที่เปิดเสนอขายกองทุนตราสารหนี้ ประเภทกำหนดอายุโครงการประมาณ 9 เดือน ซึ่งนับว่าเป็นทางเลือกใหม่และถือเป็นโอกาสที่ดีสำหรับผู้ลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ต่ำแต่ต้องการโอกาสรับผลตอบแทนที่น่าสนใจ ท่ามกลางสภาวะเศรษฐกิจที่ยังคงมีความผันผวน รวมทั้งการคาดการณ์อัตราผลตอบแทนตราสารหนี้ระยะยาวที่ยังมีโอกาสปรับลดลง ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องมาจากเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่มีแนวโน้มฟื้นตัวดีขึ้น"นายชัชชัย กล่าว

ทั้งนี้ บลจ.กสิกรไทยประเมินว่าอัตราดอกเบี้ยทั้งในประเทศและต่างประเทศมีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นในปีหน้า จึงแนะนำให้ผู้ลงทุนหันมาลงทุนในตราสารหนี้ที่มีกำหนดอายุโครงการประมาณ 9 เดือน โดยเบื้องต้น ตราสารหนี้ที่กองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ 9 เดือน เอ (KFI9MA) จะเข้าลงทุนประกอบด้วย เงินฝาก Bank of China, สาขามาเก๊า ซึ่งได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจาก Fitch ที่ A เงินฝาก First Gulf Bank, สาขาสิงคโปร์ (A+/Fitch) ซึ่งได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือระดับสากลจาก Fitch Ratings ที่ A และ A+ ตราสารหนี้ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน), ประเทศไทย (AA-(tha)/Fitch)

รวมถึงตราสารหนี้ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ซึ่งได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจาก Fitch Ratings (Thailand)ที่ AA- และตราสารหนี้ธนาคารเกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน), ประเทศไทย ซึ่งได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจาก TRIS ที่ A- โดยการลงทุนในตราสารที่ไม่ใช่สกุลเงินบาทกองทุนดังกล่าวมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน

นายชัชชัย กล่าวต่อไปว่า นอกจากกองทุนตราสารหนี้อายุ 9 เดือนข้างต้นแล้ว ในช่วงเวลาเดียวกัน บลจ.กสิกรไทย จะเสนอขายกองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ 3 เดือน ซียู (KFI3MCU) ให้โอกาสรับผลตอบแทนหลังหักค่าใช้จ่ายกองทุนที่ 2.60 % ต่อปี และกองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ 6 เดือน บีคิว (KFI6MBQ) ประมาณการผลตอบแทนหลังหักค่าใช้จ่ายกองทุนที่ 2.75% ต่อปี เพื่อเป็นทางเลือกแก่ผู้ลงทุนที่ต้องการลงทุนระยะสั้นเพิ่มเติมด้วย

กองทุน KFI3MCU ซึ่งมีอายุกองทุนประมาณ 3 เดือน จะเข้าลงทุนในเงินฝาก Bank of China, สาขามาเก๊า เงินฝาก Al Khaliji Commercial Bank, ประเทศกาตาร์ (ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือระดับสากลจาก Fitch Ratings ที่ A และ A- ตามลำดับ) ตราสารหนี้ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน), ประเทศไทย และตราสารหนี้ธนาคารธนชาต ซึ่ง(ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจาก Fitch Ratings (Thailand)ที่ A, A-, AA- และ A+ ตามลำดับ)

รวมทั้งลงทุนเพิ่มในและตราสารหนี้ บริษัท โตโยต้า ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด, ประเทศไทย (AAA/TRIS) ด้านกองทุน (KFI6MBQ) ซึ่งมีอายุกองทุนประมาณ 6 เดือนจะลงทุนในเงินฝาก Bank of China, สาขามาเก๊า เงินฝาก Al Khaliji Commercial Bank, ประเทศกาตาร์ ตราสารหนี้ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) และตราสารหนี้ธนาคารธนชาต(TBANK) เช่นเดียวกัน รวมทั้งลงทุนเพิ่มในตราสารหนี้ธนาคารเกียรตินาคิน (KK)(A/TRIS) โดยทั้ง 2 กองทุนดังกล่าวการลงทุนในตราสารที่ไม่ใช่สกุลเงินบาท กองทุนมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน

นอกจากนี้ เพื่อตอบรับความต้องการสำหรับผู้ลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ต่ำมากและต้องการลงทุนระยะสั้นกับตราสารหนี้ในประเทศเป็นหลัก ในช่วงเวลาเดียวกัน บลจ.กสิกรไทยจะเปิดขายกองทุนเปิดเค คุ้มครองเงินต้น ตราสารหนี้ไทย 3 เดือน ซีโอ (KPPTF3MCO) โดยกองทุนดังกล่าวจะเน้นลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลไทย หรือ พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย และบางส่วนที่เหลือจะลงทุนในเงินฝากประจำ 3 เดือนของธนาคารพาณิชย์ ซึ่งจะให้โอกาสรับผลตอบแทนปลอดภาษีสำหรับลูกค้าบุคคลธรรมดาที่ 2.40% ต่อปี


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ